ถ้าหากเป็นเรื่องของการเพิ่มความฟิตโดยรวมละก็การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอถือเป็นสิ่งสำคัญเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่ว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอทุกประเภทจะให้ผลลัพธ์เท่ากัน การวิ่ง, การเดิน , การใช้เครื่อง Elliptical , การปั่นจักรยาน , การวิ่งบนภูเขาหรือการปีนหน้าผา เป็นการฝึกฝนร่างกายในแบบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้ล้วนใช้เพิ่มความฟิตโดยรวมทั้งนั้น แต่มีอยู่อย่างนึงที่ได้เปรียบกว่าเพื่อนเลยก็คือ การวิ่งบนภูเขา การวิ่งเทรลแบบนี้จะให้อะไรมากกว่าการชมวิวแน่นอน
10 ประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการวิ่งเทรล
1.เสริมสร้างความอึดความอดทน
ในขณะที่การวิ่งบนลู่วิ่งจะทำให้เราได้วิ่งบนพื้นผิวเรียบมั่นคงและสม่ำเสมอ การวิ่งเทรลจะช่วยเพิ่มการฝึกฝนความอดทนและจะช่วยฝึกกลุ่มกล้ามเนื้อที่เราเองก็ไม่รู้ว่ามีอยู่ในร่างกายด้วยซ้ำไป
2.เพิ่มพลังขา
การวิ่งเทรลจะทำให้เกิดการผลักดันกล้ามเนื้อขาของเราในรูปแบบที่ท้าทายและหลากหลาย กล้ามเนื้อของเราจะเติบโตและปรับตัวเข้ากับการวิ่งในสภาพภูมิประเทศต่างๆ และเราจะได้ความเร็วเพิ่มขึ้นจากการกระโดดข้ามก้อนหินและสิ่งกีขวางตามธรรมชาติ
3.ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ
แรงกระแทกเบาๆจากการวิ่งเทรลจะช่วยลดการบดกระแทกของหัวเข่าเราได้ ถึงแม้ว่าการวิ่งเทรลจะดีกับนักวิ่งที่ต้องการวิ่งบนพื้นผิวนุ่มๆแต่ก็ต้องระวังจะได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งในภูมิประเทศบางประเภท
4.ได้สูดอากาศที่มีคุณภาพดี
การวิ่งในภูเขาจะช่วยให้เราหลีกหนีจากมลภาวะในเมือง ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจของเราได้รับอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มที่ ไม่ต้องไปเจอกับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่รถปล่อยออกมาขณะที่เราวิ่งในเมือง
5.ช่วยเพิ่มความเร็ว
แรงต้านที่เกิดจากการวิ่งในพื้นที่เอียงๆจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อสำหรับการวิ่งของเรา หลังจากการฝึกอย่างต่อเนื่องเราจะพบว่าตัวเองสามารถวิ่งบนทางลาดได้เร็วกว่าเดิม การวิ่งในภูเขาสูงยังดีต่อประสิทธิภาพของหัวใจและหลอดเลือดของเราอีกด้วย ทำให้เราสามารถวิ่งได้เร็วขึ้นโดยที่ต้องใช้ความพยายามน้อยลง
6.ช่วยเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้น
การเปลี่ยนจากการวิ่งในถนนธรรมดาไปเป็นเส้นทางที่ต้องเจอกับพื้นที่สูงๆจะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าเดิม ถ้าเราอยากลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นกว่าเดิมก้สามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นมากขึ้น ด้วยเส้นทางบนภูเขาแทนที่จะวิ่งในถนนธรรมดา
7.ช่วยในการรักษาสมดุล
ไม่ว่าใครก็สามารถวิ่งตรงๆได้โดยไม่เสียสมดุล แต่การวิ่งบนภูเขามันไม่ง่ายแบบนั้น การเรียนรู้ที่จะหลบหลีกก้อนหิน , รากไม้ , ต้นไม้ล้ม และอื่นๆ จะช่วยเพิ่มทักษะการวิ่งในชีวิตจริงให้มากขึ้น
8.เพิ่มความสามารถในการโฟกัส
มีนักวิ่งจำนวนมากฟังเพลงไปด้วยในขณะวิ่ง หรือไม่ก็ฟังหนังสือเสียงไปด้วยเพื่อแก้เบื่อในการออกกำลังกาย แต่การวิ่งเทรลบนภูเขานั้น เราจะต้องเงยหน้าแล้วมองไปตรงไปและมีสติอยู่ตลอดเวลา
9.ทำลายความน่าเบื่อ
ถ้าหากว่าเราไม่รู้สึกว่าสนุกกับการออกกำลังกายเราก็จะไม่ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากว่าไม่ชอบการวิ่งบนลู่วิ่งก็อยากให้ลองไปวิ่งแบบออฟโรดบนภูเขาดูเพราะมันจะทำให้เราได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆและความสนุกในการวิ่งเทรล
10.ช่วยพักสมอง
การวิ่งหรือเดินบนภูเขาสามารถลดความคิดและความรู้สึกวิตกกังวล รวมไปถึงความคิดแง่ลบต่างๆไปได้ ช่วยให้เราได้อยู่กับธรรมชาติอย่างผ่อนคลาย , ได้ลืมชีวิตที่วุ่นวายและความรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ
แหล่งที่มา : https://bit.ly/2N9SCQS
[AD]
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming