โปรแกรมการซ้อมวิ่ง 16 กม. (10 ไมล์) สำหรับมือใหม่และผู้มีประสบการณ์
ทุกอย่างที่เพื่อนๆ ควรรู้เกี่ยวกับการฝึกเพื่อลงแข่งวิ่งระยะทาง 16 กม. ขอให้เพื่อนๆ อ่านรายละเอียดด้านบนให้เรียบร้อยก่อนที่จะเลื่อนลงไปดูโปรแกรมการฝึกข้างล่าง
แผนการซ้อมนี้เหมาะกับใครบ้าง?
- นักวิ่งมือใหม่ที่ต้องการลงแข่งวิ่ง 16 กม. เป็นครั้งแรกในชีวิต
- นักวิ่งที่มีประสบการณ์แล้ว และต้องการจะลงแข่งวิ่ง 16 กม. เป็นครั้งแรก
- ทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ที่เคยลงแข่งระยะทางนี้มาแล้ว แต่ต้องการเพิ่มการฝึก Speed work เข้ามาด้วยเพื่อที่จะได้ทำเวลาในการวิ่งให้ดีกว่าเดิม
แต่แผนการซ้อมนี้ไม่เหมาะกับนักวิ่งผู้เชี่ยวชาญ และต้องการทำเวลาวิ่งให้ดีกว่าเดิม ยังไงก็ต้องใช้โปรแกรมการฝึกที่หนักกว่านี้
เราต้องมีระดับความฟิตมากน้อยขนาดไหนเพื่อที่จะเริ่มการฝึก
เพื่อนๆ ควรที่จะสามารถวิ่งหรือ วิ่งสลับกับเดินได้ ประมาณ 3 ไมล์ หรือ 4.82 กม.
ปริมาณการฝึก
จะต้องมีการฝึก 4 วันต่อสัปดาห์ โดยมีระยะทางโดยรวมตั้งแต่ สัปดาห์ละ 16 กม. ไปจนถึง 37 กม.
- สำหรับนักวิ่งมือใหม่และนักวิ่งที่มีประสบการณ์จะดัดแปลงโปรแกรมการฝึกนี้อย่างไรได้บ้าง
ในทุกสัปดาห์จะมีการฝึกวิ่ง speedwork 1 วัน แต่อย่างไรก็ตามการฝึก speedwork จะเหมาะกับคนที่เคยฝึกวิ่งมาอย่างต่อเนื่องแล้วเท่านั้น
สำหรับมือใหม่ที่พึ่งจะสามารถวิ่งได้ 3 ไมล์หรือ 4.82 กม. ก็ขอให้เปลี่ยนจากการฝึก Speed work ไปเป็นการวิ่งแบบ Easy สัก 3.2-4.82 กม. หรือไม่ก็ให้ฝึก Cross training ได้เลย เพราะมือใหม่มีสิทธิที่จะได้รับบาดเจ็บจากการฝึก Speed work
- ส่วนนักวิ่งที่มีประสบการณ์แล้ว ก็ให้ฝึก Speed work ไปตามที่ระบุไว้ดังนี้
ขึ้นอยู่กับระดับความฟิตของเรา ให้เราปรับระดับการฝึก intervals หรือ speed ตามความต้องการ หากระดับของเรายังอยู่กลางๆ ระหว่างคนมีประสบการณ์กับมือใหม่ ก็อาจจะวิ่ง 800 เมตร โดยใช้เพซ 5k แต่ถ้าเราเก่งอยู่ในระดับกลางแล้วก็ให้ใช้เพซ 10k

ประเภทของการฝึกวิ่งในโปรแกรมการฝึกนี้
ในวันที่ 1 และ 3 จะเป็นการวิ่งระยะสั้น วันที่ 4 เป็นวันวิ่งระยะไกล และวันที่ 2 จะเป็นการฝึก Speed work
- การวิ่งระยะสั้น : จะเป็นการวิ่งในระยะทางที่สั้นและใช้เพซสบายๆ เราจะต้องวิ่งในระดับที่สามารถวิ่งไปคุยไปได้ และใช้เพซที่ช้ากว่าวันลงแข่งจริง
- การวิ่งระยะไกล : จะมีวันวิ่งระยะไกล 1 วันต่อสัปดาห์ ให้วิ่งโดยใช้เพซสบายๆ และคงที่ หากเพื่อนๆ เป็นนักวิ่งมือใหม่จะพบว่ามันมีความท้าทายในการรักษาระดับเพซเอาไว้ตลอดระยะทาง ซึ่งนั่นหมายความว่าเราอาจจะใช้เพซที่ช้าลงอีกและใช้การวิ่งสลับกับการเดินเพื่อพักขา และลดอัตราการเต้นของหัวใจลงอีกนิด เป้าหมายคือการวิ่งสะสมระยะทางอย่าไปกังวลเรื่องความเร็ว
- การฝึก Fartlek : Fartlek เป็นภาษาสวีเดนแปลว่าการเล่นกับความเร็ว ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็คือการฝึก intervals แบบไม่เป็นทางการนั่นเอง โดยเราจะใช้ 5-10 นาทีแรกในการวิ่งวอร์มอัพโดยใช้เพซสบายๆ จากนั้นตลอดการวิ่งให้ใช้วิธีวิ่งเร็วระยะสั้นๆ ไปเรื่อยๆ เป้าหมายอยู่ที่ความสนุกและการสุ่มว่าจะวิ่งเร็วในตอนไหน ยกตัวอย่างเช่นในจังหวะที่เพลงที่เราเปิดอยู่ในท่อนฮุคเราก็เร่งความเร็วในการวิ่งขึ้น หรือการเร่งความเร็วทุกครั้งที่เจอตู้ไปรษณีย์ เป็นต้น
- การฝึก Intervals (เช่น 800 เมตร 4 รอบ) : มันก็เหมือนกับตอนวิ่ง fartlek แต่จะเป็นการวิ่งแบบมีรูปแบบแน่นอน โดยให้เริ่มจากการ โดยใน 5-10 นาทีแรกให้วิ่งโดยใช้เพซสบายๆ เพื่อวอร์มอัพ จากนั้นให้วิ่ง 800 เมตร ตามจำนวนรอบที่ได้ระบุไว้ และก็ให้วิ่งโดยใช้เพซที่ระบุไว้ด้วย พอวิ่งเสร็จ 1 รอบ ให้วิ่งจ๊อกกิ้งเพื่อฟื้นตัว แล้วก็ฝึกวิ่งรอบถัดไปจนกว่าจะครบจำนวน (800 เมตรก็น่าจะ 2 รอบของสนามวิ่ง ลองถามคนแถวนั้นดูละกันนะ)
- Paced Runs : ในโปรแกรมการวิ่งจะมีบางวันที่บอกให้วิ่งโดยใช้เพซ 10k + 10-20 วินาที ให้เราใช้เวลา 5-10 นาทีแรกในการวอร์มอัพสบายๆ แล้วก็ให้วิ่งในระยะทางและเพซที่กำหนดไว้ได้เลย สมมุติว่าปกติแล้ว เราจะสามารถวิ่ง 10 กม. ได้ในเวลา 50 นาที ก็แปลว่าเรามีความเร็วในการวิ่ง 10k อยู่ที่ 8:03 นาที ก็ให้เราเพิ่มเวลาเข้าไปอีก 10-20 วินาที ก็จะกลายเป็นว่าเรามีความเร็วในการวิ่ง 10K อยู่ที่ 8:13 – 8:23 นาที
เคล็ดลับที่มีประโยชน์สำหรับการฝึก
- การวอร์มอัพและคูลดาวน์
การวอร์มอัพช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและช่วยค่อยๆ เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ในขณะที่การวอร์มดาวน์จะค่อยๆ ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ดังนั้นควรวิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ ทั้งในช่วงก่อนและหลังการฝึกวิ่ง
- การยืดกล้ามเนื้อ
การวิจัยพบว่าหากกล้ามเนื้อไม่ได้ยืดอย่างเต็มที่จะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อแน่นระหว่างการวิ่งได้ การยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำนอกจากจะช่วยให้รู้สึกดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มระยะการยืดของกล้ามเนื้อและป้องกันอาการกล้ามเนื้อแน่นอีกด้วย
- การฝึก STRENGTH TRAINING
ในแต่ละสัปดาห์ควรมีวันที่เราฝึก strength training ประมาณ 1-2 วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเพื่อนๆ เคยฝึก strength training อยู่ก่อนแล้ว
แต่ถ้าไม่เคยฝึกให้ลองฝึก Weight exercises เช่น ท่าวิดพื้น , Lunges, Squats, Planks และอื่นๆ เมื่อมีเวลาว่างระหว่างสัปดาห์จะช่วยให้เรารักษาระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อแกนกลางไว้ได้
- อาการบาดเจ็บและความเมื่อยล้า
อาการเมื่อยล้านั้นเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการฝึก Speed work แต่ถ้ามีอาการเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเจ็บจนกระทั่งส่งผลต่อการก้าวเท้าล่ะก็ ถือเป็นอาการผิดปกติแล้วล่ะ ต้องรีบไปหาหมอเลย
โปรแกรมการซ้อมวิ่ง 16 กม. เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ (แปลงระยะทางจากไมล์เป็นกิโลเมตรให้แล้ว)
สัปดาห์ที่ 1
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 4.02 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง Fartlek 3.2 กม.
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 3.2 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 4.82 กม.
สัปดาห์ที่ 2
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 4.02 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง Fartlek 4.02 กม.
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 4.02 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 6.43กม.
สัปดาห์ที่ 3
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 4.82 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง 800 เมตร 4 รอบ โดยใช้เพซ 5-10k
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 3.2 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 8.04 กม.
สัปดาห์ที่ 4
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 4.82 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง 800 เมตร 5 รอบ โดยใช้เพซ 5-10k
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 4.82 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 6.43 กม.
สัปดาห์ที่ 5
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง 4.82 กม. โดยใช้เพซ 10k +ความเร็ว 10-20 วินาที
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 4.82 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 9.65 กม.
สัปดาห์ที่ 6
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง Fartlek 4.82 กม.
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 4.82 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 11.2 กม.
สัปดาห์ที่ 7
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง 4.82 กม. โดยใช้เพซ 10k +ความเร็ว 10-20 วินาที
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 4.82 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 12.87 กม.
สัปดาห์ที่ 8
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง 800 เมตร 6 รอบ โดยใช้เพซ 5-10k
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 8.04 กม.
สัปดาห์ที่ 9
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง 5.63 กม. โดยใช้เพซ 10k +ความเร็ว 10-20 วินาที
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 14.48 กม.
สัปดาห์ที่ 10
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 8.04 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง 6.43 กม. โดยใช้เพซ 10k +ความเร็ว 10-20 วินาที
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 16 กม.
สัปดาห์ที่ 11
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 8.04 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง 800 เมตร 7 รอบ โดยใช้เพซ 5-10k
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 4 : วิ่งระยะไกล 11.26 กม.
สัปดาห์ที่ 12
- วันที่ 1 : วิ่งระยะสั้น 6.43 กม.
- วันที่ 2 : วิ่ง 3.2 กม. แบบ Easy
- วันที่ 3 : วิ่งระยะสั้น 3.2 กม.
- วันที่ 4 : วันลงแข่งจริง ขอให้ทุกคนโชคดี
ที่มา : https://bit.ly/309ozjr
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming