7 ประโยชน์ของการดื่มน้ำตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
เป็นเรื่องปกติที่มีการแนะนำให้ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน โดยใช้แก้วขนาด 8 ออนซ์ (ปริมาณ 236 มิลลิลิตร) หรือที่เรียกว่า กฏ 8×8 แม้ว่าจะมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกฎนี้น้อยมาก แต่การได้รับน้ำอย่างเพียงพอก็ยังเป็นเรื่องสำคัญอยู่ดี บทความนี้มี 7 หลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการดื่มน้ำให้เพียงพอมาฝากเพื่อนๆค่ะ
1. น้ำช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
หากได้รับน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และการดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะสำคัญมากหากเราต้องออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูงหรือต้องเจอกับสภาพอากาศร้อน
อาการขาดน้ำจะเริ่มเป็นที่สังเกตได้อย่างชัดเจน เมื่อร่างกายมีปริมาณน้ำลดลงเพียงแค่ 2% เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากพวกนักกีฬาจะมีการสูญเสียน้ำผ่านทางเหงื่อไปถึง 6-10%
นี่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย , ทำให้มีอาการสูญเสียแรงบันดาลใจ , เพิ่มระดับความเมื่อยล้า และทำให้รู้สึกว่าออกกำลังกายได้ยากมากขึ้น ส่งผลทั้งทางร่างกายและจิตใจเลย
การได้รับน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยป้องกันไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้ และยังจะช่วยลดภาวะ Oxidative stress ซึ่งจะเกิดขึ้นในตอนที่ออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูงอีกด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลยเพราะในกล้ามเนื้อมีน้ำอยู่ถึง 80%
ดังนั้นหากเราต้องมีการฝึกออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูงและมีเหงื่อออกมาก ก็ควรที่จะดื่มน้ำอย่างเพียงพอเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายอย่างเต็มที่
2. การได้รับน้ำอย่างเพียงพอ อาจส่งผลต่อระดับพลังงานและการทำงานของสมอง
สมองของเราได้รับอิทธิพลจากปริมาณน้ำในร่างกายอย่างมาก มีการวิจัยพบว่าการขาดน้ำเล็กน้อย (ประมาณ 1-3% ของน้ำหนักตัว) สามารถลดประสิทธิภาพในการทำงานของสมองได้
การวิจัยในผู้หญิงวัยสาวพบว่าหากมีการสูญเสียน้ำ 1.36% หลังการออกกำลังกาย จะส่งผลต่อทั้งอารมณ์และการรวมสมาธิ , และเพิ่มความถี่ของอาการปวดหัว
และในการวิจัยที่คล้ายกันแต่เป็นการวิจัยกับผู้ชาย ก็พบว่าการสูญเสียน้ำ 1.59% จะส่งผลเสียต่อความจำ , เพิ่มระดับความวิตกกังวล และความเมื่อยล้า
การสูญเสียน้ำ 1-3% นั้นเทียบเท่ากับน้ำปริมาณ 0.5-2 กก. ของน้ำหนักตัว (สำหรับคนที่หนัก 68 กก.) ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน , การออกกำลังกาย และการต้องเจอกับอากาศที่ร้อนมาก
มีการวิจัยอื่นๆอีกมากมายทั้งกับเด็กและคนชราพบว่า การขาดน้ำจะส่งผลต่ออารมณ์ , ความจำ และประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
3. การดื่มน้ำอาจสามารถช่วยป้องกันหรือแก้ไขอาการปวดหัวได้
การขาดน้ำสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวและไมเกรนกับคนบางคนได้
มีอยู่หลายงานวิจัยที่พบว่าการดื่มน้ำจะช่วยแก้อาการปวดหัวให้กับคนที่อยู่ในภาวะขาดน้ำได้
แต่อย่างไรก็ตามมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นอาการปวดหัวประเภทไหนด้วย
มีอยู่ 1 งานวิจัยกับอาสาสมัคร 18 คน พบว่าน้ำไม่ได้ช่วยแก้อาการปวดหัวบ่อยๆ แต่จะไปลดระดับความเข้มข้นและระยะเวลาของอาการปวดหัว
4. การดื่มน้ำอาจช่วยลดอาการท้องผูกได้
อาการท้องผูกเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไป อาการหลักๆคือไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวของลำไส้ และมีการเดินทางผ่านลำไส้ที่ยากลำบากของอุจจาระ มีการแนะนำให้ดื่มน้ำมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีแก้ไขและมีหลักฐานยืนยันแล้วว่าช่วยได้
การดื่มน้ำน้อยทำให้เกิดความเสี่ยงในการมีอาการท้องผูกทั้งกับคนหนุ่มสาวและคนชรา
นักวิจัยยังพบว่าน้ำอัดลม (Sparkling Water) สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ แต่ยังไม่ทราบว่าเพราะอะไร
5. การดื่มน้ำอาจช่วยในการรักษานิ่วในไตได้
นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ ถูกสร้างขึ้นจากระบบทางเดินปัสสาวะนี่ล่ะ แต่แบบที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ นิ่วในไต มีหลักฐานน้อยมากว่าการดื่มน้ำจะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้คนที่เคยมีนิ่วในไตกลับมามีอาการอีก
การดื่มน้ำเยอะจะเพิ่มปริมาณปัสสาวะที่เดินทางผ่านไต ซึ่งจะช่วยเจือจางไม่ให้แร่ธาตุเกิดการตกตะกอน ทำให้เกิดการตกผลึกน้อยลง น้ำยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการก่อตัวของนิ่วอีกด้วย แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันอย่างละเอียดต่อไป
6. น้ำอาจป้องกันอาการเมาค้างได้
อาการเมาค้างเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์จะทำให้มีการขับปัสสาวะมากขึ้น ทำให้มีการสูญเสียน้ำที่พึ่งดื่มเข้าไปทำให้เกิดภาวะขาดน้ำได้
ถึงแม้ว่าภาวะขาดน้ำจะไม่ใช่สาเหตุหลักของอาการเมาค้าง แต่ก็สามารถทำให้เกิดอาการกระหายน้ำ , เมื่อยล้า , ปวดหัว และมีอาการปากแห้งได้
วิธีที่ดีในการป้องกันอาการเมาค้างคือ ต้องมีการดื่มน้ำระหว่างการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และก่อนเข้านอนก็ควรที่จะดื่มน้ำแก้วใหญ่ด้วย
7. การดื่มน้ำช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักได้
การดื่มน้ำเยอะช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก เป็นเพราะว่าน้ำช่วยให้อิ่มและช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน
มีสองงานวิจัยพบว่า การดื่มน้ำครึ่งลิตรสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานได้ถึง 24-30% เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งหมายความว่าการดื่มน้ำ 2 ลิตรทุกวัน สามารถช่วยให้เกิดการเผาผลาญพลังงานมากขึ้นได้ถึง 96 แคลอรี่ต่อวัน
ช่วงเวลาในการดื่มน้ำก็สำคัญเช่นกัน การดื่มน้ำก่อนทานอาหารครึ่งชั่วโมง ถือว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะมันจะทำให้รู้สึกอิ่มและทานอาหารได้น้อยลง
มีอยู่หนึ่งงานวิจัยพบว่า คนที่ดื่มน้ำครึ่งลิตรก่อนการทานอาหารแต่ละมื้อ สามารถลดน้ำหนักได้ 44% โดยใช้เวลาแค่เพียง 12 สัปดาห์เท่านั้น
และจะดีที่สุดถ้าหากเราดื่มน้ำเย็น เพราะร่างกายต้องใช้พลังงาน (แคลอรี่) ในการเปลี่ยนอุณหภูมิของน้ำให้เท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย
ที่มา :
? ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
[AD]
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC คลิก bit.ly/ฺBNC122
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming