7 เครื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับสูตรไดเอท 500-Calorie Diet
การไดเอทแบบ 500-Calorie Diet นั้นคือ การทานอาหารวันละแค่ 500 แคลอรี่ หรือมากที่สุดก็ได้แค่วันละ 800 แคลอรี่เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้อยมาก มันถูกจัดอยู่ในรูปแบบการไดเอทแบบแคลอรี่ต่ำ หรือ Very low-calorie diet (VLCD)
การไดเอทแบบ VLCD นั้นมีการแทนที่การทานอาหารด้วยเครื่องดื่ม , หรือโปรตีนเชค และมีการเตรียมอาหารแบบแท่ง แทนที่จะเป็นอาหารตามปกติ โดยจะเตรียมไว้สำหรับสองมื้อต่อวัน การไดเอทแบบ VLCD นั้นมีไว้สำหรับคนที่มีน้ำหนักเกินและไม่สามารถลดน้ำหนักได้หลังจากที่ลองวิธีการไดเอทมาแล้วหลายรูปแบบ
การไดเอทแบบนี้สามารถที่จะเป็นอันตรายได้ และจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ ในบทความนี้เราจะมาดูกันถึงความเสี่ยงและวัตถุประสงค์ของการไดเอทแบบนี้กัน
1. อย่าใช้วิธีนี้โดยไม่มีแพทย์คอยดูแล
หมอจะเป็นคนบอกให้เราใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อเขาได้คิดมาดีแล้วว่าเป็นวิธีที่จำเป็นกับเรา และหมอได้พิจารณาจากการตรวจเช็คสุขภาพของเรา โดยรู้ถึงความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการลดแคลอรี่จำนวนมากแล้ว
ถ้าหากหมอไม่ได้บอกให้เราใช้วิธีนี้ ก็ไม่ควรที่จะลองไดเอทแบบนี้ด้วยตัวเอง เพราะมันมีความเสี่ยงและมีข้อควรระวังที่ต้องปฎิบัติตาม หมอจะต้องเป็นคนคอยดูแลและควบคุมการไดเอทของเราเสมอ
2. สูตรการ Fasting แบบ 5:2
สูตรนี้จะเป็นการ Fasting โดยใน 1 สัปดาห์จะมีวันที่ทานอาหาร 500 แคลอรี่อยู่ 2 วัน ในขณะที่อีก 5 วันที่เหลือเราต้องใช้วิธีทานอาหารแบบ ‘เมดิเตอร์เรเนียน ไดเอท’ และทานให้ได้ 2000 แคลอรี่ทุกวัน แต่ว่าอีกสองวันที่เราทานเพียง 500 แคลอรี่นั้นไม่ควรทำติดต่อกัน และปัจจุบันยังมีผลการวิจัยเกี่ยวกับสูตร 5:2 ออกมาน้อยมาก แต่ถ้าหากใครสนใจในเว็บไซต์ของเราก็มีรายละเอียดของสูตรนี้ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำ Intermittent Fasting (IF) สูตร 5:2
3. ทานแค่ไหนจึงจะได้แค่ 500 แคลอรี่
เครื่องคำนวนแคลอรี่ออนไลน์ USDA ซึ่งปิดให้บริการไปแล้ว ได้เคยคำนวนออกมาว่า ถั่วพีนัทสองกำมือ และพิซซ่า Pepperoni 1 ชิ้น จะมีแคลอรี่ 250 แคล , แอปเปิ้ล 1 ลูกมีแคลอรี่น้อยกว่า 80 แคล , ไก่ทอดสองชิ้นมี 400 แคลอรี่
เรายังต้องพิจารณาด้วยว่า เราต้องการเผาผลาญแคลอรี่วันละกี่แคล? อ้างอิงข้อมูลจาก Harvard Medical School คนน้ำหนักตัว 85 กก. สามารถเผาผลาญพลังงานได้ 72 แคลอรี่จากการเข้าร่วมในห้องประชุม 1 ชั่วโมง
4. ยังไงร่างกายเราก็ต้องการสารอาหาร
หนึ่งในปัญหาของการทานอาหารให้ได้วันละ 500 แคลอรี่ก็คือเรื่อง ‘สารอาหาร’ เพราะมันอนุญาตให้เราทานคาร์บโบไฮเดรตหรือไขมันเท่าไหร่ก็ได้ เราจะทานเค้กช็อกโกแลตเพื่อให้ได้รับ 500 แคลอรี่ก็ได้ แต่มันไม่มีสารอาหารเพียงพอ
การไดเอทที่มีสารอาหารเพียงพอควรมีผักผลไม้ , ลีนโปรตีนและธัญพีช การมีสุขภาพดีนั้นไม่ได้หมายถึงการนับแคลอรี่เพียงอย่างเดียว อย่าลืมล่ะ!
5. อันตรายจากการลดแคลอรี่ปริมาณมาก
วิธีไดเอทแบบนี้จะทำให้เราขาดวิตามินและเกลือแร่ ซึ่งสามารถทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้หลายอย่าง ในความเป็นจริงคนเกือบทั้งโรคจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ไม่เพียงพอ ถ้าหากว่าทานน้อยกว่าวันละ 1200 แคลอรี่
อ้างอิงข้อมูลจาก Mayo Clinic ถ้าหากมื้ออาหารของเราขาดสังกะสี ซึ่งมีอยู่ในเมล็ดฟักทองและเนื้อวัว ก็อาจทำให้เราผมร่วงได้
- การขาดธาตุเหล็กสามารถทำให้เราเป็นโลหิตจาง
- การขาดวิตามิน D และแคลเซียมอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนในช่วงบั้นปลายของชีวิต
- ถ้าขาด วิตามินบี 3 ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจเพราะหลอดเลือดแดงอุดตัน
ดังนั้นเราจึงต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ มิใช่เอาแต่นับแคลอรี่อย่างเดียว
6. การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
การทานอาหารวันละ 500 แคลอรี่มีความเสี่ยงในการทำให้เราสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ Sharon Palmer นักโภชนาการผู้เขียนหนังสือชื่อ “Plant-Powered for Life” บอกว่า “หลังจากที่ร่างกายได้ใช้ไขมันสำรองไปแล้วมันจะเริ่มย่อยสลายกล้ามเนื้อ”
ในตอนแรกการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อมันจะดูเหมือนกับเป็นการลดน้ำหนัก แต่อย่าลืมว่าน้ำหนักนั้นไม่ได้มาจากไขมันทั้งหมด เพื่อให้ร่างกายเรามีสุขภาพดี เราควรที่จะมีการสร้างกล้ามเนื้อ การไดเอทที่ดีต้องเผาผลาญแต่ไขมัน ไม่ใช่กล้ามเนื้อ
7. การเปลี่ยนแปลงของอัตราการเผาผลาญพลังงาน
ความเสี่ยงอีกอย่างที่พึงระวังก็คือการไดเอทแบบทานวันละ 500 แคลอรี่ สามารถทำให้ร่างกายปรับลดอัตราการเผาผลาญพลังงานลง เนื่องมาจากมีการลดแคลอรี่เป็นระยะเวลานาน มันจะทำให้ร่างกายมีความสามารถในการเผาผลาญแคลอรี่ลดลง และหลังจากที่เราลดน้ำหนักไปแล้วเราจะต้อง “ทานน้อย” ไปตลอดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มอีก
ดร.Mindy Haar จาก “New York Institute of Technology School of Health Professions” กล่าวว่า “คนส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองสามารถอดทนกับการไดเอทได้ในระยะสั้น , ลดน้ำหนัก , และกลับไปมีรูปแบบการกินที่เหมือนเดิม” แต่ถ้าพวกเขากลับไปกินเหมือนเดิมก็จะกลับมามีน้ำหนักเท่าเดิมอีก “บ่อยครั้งที่ผู้ลดน้ำหนักจะสูญเสียทั้งไขมันและกล้ามเนื้อ แล้วก็กลับไปอ้วนเหมือนเดิม” การไดเอทสามารถทำให้เราอ้วนมากกว่าเดิมได้
บทสรุปส่งท้าย
เราจะใช้วิธีไดเอทแบบนี้ก็ต่อเมื่ออยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดแบบสุดๆเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะลดน้ำหนักได้ แต่เราก็มีความเสี่ยงที่จะขาดสารอาหาร ซึ่งสามารถทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้หลายอย่าง
การลดน้ำหนักแบบที่ทำให้มีสุขภาพดีนั้น จะต้องทำให้เราได้รับสารอาหารที่หลากหลายและมาจากอาหารหลายประเภท , มีการจัดสัดส่วนอาหารในจาน , และเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าที่เราทานเข้าไป แบบนี้จึงจะช่วยลดน้ำหนักและป้องกันไม่ให้กลับมามีน้ำหนักเหมือนเดิมอีก
ที่มา : https://bit.ly/2lB3BJm
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
[AD]
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC คลิก bit.ly/ฺBNC122
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling#Triathlon#Swimming