A Race for the Ages: Bob Becker ชายวัย 74 ปีผู้คว้ารางวัลชนะเลิศในการวิ่งระยะทาง 230 Miles
A Race for the Ages การแข่งขันที่เป็นการวิ่งวนลูปเป็นรอบๆละ 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร) และนักวิ่งจะมีกำหนดเวลาในการวิ่งเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับอายุของพวกเขา
ตัวอย่างเช่น Bob Becker ชายชาว Florida ที่มีอายุ 74 ปี ดังนั้นตามกฎการแข่งขันเขาจะมีเวลา 74 ชั่วโมงในการวิ่งวนลูปให้ได้ระยะทางมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ในขณะที่คนที่อายุ 67 ปีก็จะต้องเริ่มหลังจาก Becker เจ็ดชั่วโมง หรือพูดให้เข้าใจได้ง่ายก็คือ จำกัดเวลาวิ่งตามตัวเลขของอายุ และผู้ที่อายุมากกว่าจะได้เริ่มสตาร์ทออกตัวไปก่อน
เบกเกอร์บอกว่า เขามักจะเป็นผู้เข้าแข่งขันที่มีอายุมากที่สุดที่จะได้รับหมายเลขบิบเป็นเบอร์แรก จากนั้นหมายเลข BIB ก็จะเพิ่มขึ้นในขณะที่อายุผู้เข้าแข่งขันลดลงไปเรื่อยๆ (เลขบิบเรียงจากอายุผู้เข้าแข่งขันจากมากไปน้อย) ซึ่งเขาได้บิบหมายเลข 26 นั่นหมายความว่า ยังมีอีก 25 คนก่อนหน้าเขาที่มีอายุมากกว่าเขาสะอีก
หลังจากที่เขาเริ่มวิ่งอัลตร้าเมื่อตอนอายุ 60 และเคยแข่ง Badwater 135 สำเร็จมากถึง 3 ครั้ง รวมไปถึงการแข่ง Badwater Double ซึ่งเป็นการแข่งขันวิ่งปีนเขา Mount Whitney ระยะทาง 292 ไมล์มาแล้ว แต่ทั้งหมดนี้เขาไม่เคยได้รับชัยชนะติดหนึ่งในสามเลยสักครั้ง จนในที่สุด Bob Becker ก็คว้าชัยชนะครั้งแรกในชีวิตได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้เขาไม่เพียงแค่คิดว่าเขาทำได้ แต่เขาเชื่อว่าเขาสามารถชนะได้และยังทำลายสถิติ 228 รอบได้อีกด้วย
กลยุทธ์ในการซ้อมวิ่งของ Bob Becker
ด้วยระยะเวลาที่กำหนดไว้ว่า เขาต้องวิ่งทั้งหมด 74 ชั่วโมง มันจะทำให้เขาเกิดความรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการแข่งขันและอยากยุติมันขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นเขาจึงวางแผนการฝึกซ้อมของตัวเอง โดยฝึกวิ่ง 1 ไมล์ในสถานที่ใกล้บ้านของเขา โดยเขาจะวิ่งเป็นเวลา 1 นาที จากนั้นก็เดินต่อไปอีกหนึ่งนาที นั่นเป็นเคล็ดลับการซ้อมวิ่งของเขาเอง เพราะเขามักจะวิ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ของการแข่งขัน และเดินอีก 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เขาสามารถ recovery พลังงานในร่างกายคืนมาได้อย่างรวดเร็ว
วันแข่งขัน
ในเช้าวันที่ 30 สิงหาคม เขาออกเดินทางด้วยความเร็วเฉลี่ย 4 ไมล์ต่อชั่วโมง และพยายามอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงแรก และในเช้าวันถัดมาเขามาถึงระยะ 85 ไมล์ (137 กม.) จากนั้นเขาเลือกที่จะวิ่งต่ออีกสามชั่วโมงเพื่อไปให้ถึง 95 ไมล์ (153 กิโลเมตร) ก่อนที่จะพักงีบหลับ 90 นาทีที่โรงแรม หลังจากนั้นเขาก็อาบน้ำและกลับไปวิ่งตามแผนเดิมที่ซ้อมมา ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ขาของเขารู้สึกสดชื่นมีเรี่ยวแรง เขาเติมพลังให้ร่างกายด้วยการดื่มเครื่องดื่ม Ensure ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง และดื่มเจลพลังงานที่ให้พลังงานประมาณ 200 แคลอรี่ทุกชั่วโมง และเสริมด้วยการดื่มโค้กเพื่อเพิ่มคาเฟอีนรวมถึงเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อเพิ่ม electrolytes ให้ร่างกายด้วย
เมื่อถึงเวลาที่กำหนด (74 ชั่วโมง) เขาวิ่งไปได้ทั้งหมด 229 รอบ โดยที่เขาเผื่อเวลาเหลือไว้อีก 30 นาที ซึ่งตอนนี้เขาเหนื่อย หมดเรี่ยวแรง และรู้สึกอ่อนล้ามาก หลังจากที่ใช้งานร่างกายมาอย่างหนักเป็นเวลา 3 วัน และเขาต้องการที่จะฟื้นฟูตัวเองในหนึ่งวัน แต่ผู้คนไม่ยอมให้เขาทิ้งเวลาที่เหลือไปแบบนั้น ทุกคนรบเร้าให้เขาทำให้ได้ถึง 230 รอบ
ในที่สุดเขาก็วิ่งเพิ่มอีก 1 ไมล์ตามคำเรียกร้องของฝูงชน เขาทำสำเร็จ! ระยะทางทั้งหมด 230 ไมล์ หรือประมาณ 370 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 73:45:13 ทำให้เขาได้รับชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้
ที่มา : runnersworld
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
[AD]
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC คลิก bit.ly/ฺBNC122
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling#Triathlon#Swimming