วิตามินดี (Vitamin D) ดีต่อนักวิ่งอย่างไร ในช่วงฤดูหนาว
วิตามินดี (Vitamin D) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมน ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง แถมยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย และเนื่องจากการวิ่งเป็นกีฬาที่มีแรงกระแทกสูง ดังนั้นการมีกระดูกที่แข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักวิ่งเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ วิตามินดียังจำเป็นสำหรับการดูดซึมแคลเซียม การทำงานของเส้นใยกล้ามเนื้อแบบกระตุกเร็ว (Fast Twitch Muscle) และมีผลต่อยีนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์กว่า 2,000 ยีน ซึ่งสัมพันธ์กับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และการสังเคราะห์โปรตีน
ทำไมนักวิ่งจึงต้องการวิตามินดีมากขึ้นในช่วงฤดูหนาว?
ในช่วงฤดูร้อนนักวิ่งจะได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ จากการออกไปวิ่งกลางแดดเป็นประจำทุกวัน โดยได้รับผ่านกระบวนการสังเคราะห์วิตามินดีที่ผิวหนังเมื่อสัมผัสกับแสงแดด หรือที่เราเรียกว่า “วิตามินแสงแดด” แต่ในช่วงฤดูหนาวพระอาทิตย์จะขึ้นช้าและตกเร็วขึ้น ผู้คนมักจะไม่ค่อยออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน และมักจะสวมเสื้อผ้าหนาๆ ที่ปกคลุมผิวหนังมิดชิด ทำให้การได้รับวิตามินจากแสงแดดอย่างเพียงพอเป็นไปได้ยาก
สำหรับนักวิ่งที่ต้องการรักษาสุขภาพกระดูก กล้ามเนื้อ และภูมิคุ้มกันให้ดี จึงจำเป็นต้องเพิ่มอาหารเสริมหรืออาหารที่มีวิตามินดี เพื่อรักษาระดับวิตามินดีในร่างกายให้เพียงพอ แต่ควรขอข้อมูลจากแพทย์ก่อนที่จะเพิ่มปริมาณอาหารเสริมด้วยตนเอง และระวังอย่ารับประทานวิตามินดีในปริมาณที่สูงกว่าที่แนะนำในแต่ละวัน
ตัวอย่างอาหารที่มีวิตามินดี ได้แก่
- ปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาเรนโบว์เทราต์
- นม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต และชีส
- ซีเรียล
- ไข่แดง
- น้ำส้มเสริมแคลเซียม
ระดับวิตามินดีต่ำ จะส่งผลต่อการวิ่งหรือไม่?
Marita Radloff นักกำหนดอาหารและนักโภชนาการ กล่าวว่า ในระยะสั้นคำตอบคือ “ใช่” เพราะวิตามินดีมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการฝึกซ้อม สมรรถภาพและสุขภาพโดยรวม “ระดับวิตามินดีต่ำ” จะเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วยเฉียบพลัน อาการบาดเจ็บจากการอักเสบ ภาวะกระดูกหักล้า (stress fractures) อาการปวดกล้ามเนื้อ และอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
แต่น่าเสียดายที่นักกีฬาหลายคนไม่ตระหนักถึงความสำคัญในข้อนี้ การได้รับวิตามินดีในปริมาณที่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อการทำงานของปอด ค่า VO2 max และอาจส่งผลต่อการรักษาเส้นใยของกล้ามเนื้อกระตุกเร็ว นอกจากสุขภาพของกระดูกแล้ว วิตามินดียังช่วยควบคุมการอักเสบในระบบภูมิคุ้มกัน และส่งผลต่อฮอร์โมนที่มีผลต่ออารมณ์ด้วย ซึ่งมีความสำคัญต่อแรงจูงใจและความตื่นเต้นในการเล่นกีฬาของนักวิ่ง
วิตามินดีสามารถช่วยป้องกัน Coronavirus ได้หรือไม่?
เนื่องจากวิตามินดีมีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันและระบบทางเดินหายใจ จึงได้มีการศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของวิตามินดีกับโควิด-19 โดยผลการศึกษาจำนวนหนึ่งแสดงให้เห็นว่า วิตามินดีมีผลต่อการลดความรุนแรงของ COVID-19
- ผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS One ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 190,000 คน สรุปได้ว่า COVID-19 มีความสัมพันธ์อย่างมากกับระดับวิตามินดีในร่างกาย
- การศึกษาอีกชิ้นหนึ่ง ได้ทำการศึกษาข้อมูลของผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 200 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล พบว่ามีผู้ป่วยมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ได้รับการวินิจฉัยว่าขาดวิตามินดี
- และจากการศึกษาล่าสุดอีกชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Clinical Pathology ได้ทดสอบกลุ่มตัวอย่างจำนวน 186 คน พบว่า 59 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลขาดวิตามินดี โดยเป็นเพศหญิง 47% และเพศชาย 67%
อย่างไรก็ตามยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกจำนวนมากก่อนที่จะได้ข้อสรุปใดๆ แต่ก็ทำให้เห็นว่า “วิตามินดี” อาจป้องกันภาวะแทรกซ้อนของ COVID-19 รวมทั้งมีส่วนในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อสุขภาพ
ที่มา : https://bit.ly/38Dd9bH
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming