ท้าความตาย – งานแข่งปั่นจักรยานภูเขา Cape Epic
มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหากจะพูดว่างานแข่ง Cape Epic มันคืองาน Tour de France เวอร์ชั่นจักรยานภูเขาซึ่งมีการจัดงานที่แอฟริกาใต้ และมีการเปิดรับสมัครทั้งนักกีฬามือสมัครเล่นและมืออาชีพ มีเส้นทางการวิ่งอยู่ในจังหวัดเวสเทิร์นเคปโดยจะแข่งกันเป็นทีมซึ่งมีสมาขิก 2 คน ปกติแล้วจะมีระยะเวลาในการแข่งขันทั้งหมด 8 วัน เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตร และมีระยะทางในการขึ้นเขารวมกันได้ 16,000 เมตร
เช่นเดียวกับงานแข่ง Tour de France มีการเปลี่ยนเส้นทางทุกปีและมีเส้นทางขึ้นเนินเขาเต็มไปหมด แต่ที่แตกต่างจาก Tour de France คือนักแข่งจะต้องผ่านเส้นทางรกร้าง , เส้นทางบนเขา , เส้นทางที่เต็มไปด้วยป่า , พุ่มไม้และทุ่งหญ้าแห้ง และเส้นทางคดเคี้ยว ทั้งยังมีเส้นทางอันตรายอีกด้วย , มีโอกาสเจอเรื่องที่ทำให้ต้องออกจากการแข่งขันเยอะ ทางผู้จัดงานจึงได้ตั้งชื่อเล่นให้เส้นทางนี้ว่า Dr.Evil
ตั้งแต่เริ่มมีการจัดงานในปี ค.ศ.2004 มีนักแข่งสามารถไปถึงเส้นชัยได้มากกว่า 4500 ซึ่งก็เป็นคนนักแข่งหน้าเก่ากันทั้งนั้น แต่ในปัจจุบันเป็นเพราะสปอนเซอร์และการโฆษณาผ่านทางทีวีจึงทำให้งานแข่งเติบโตขึ้นอย่างมาก
เนื่องจากต้องแข่งกันเป็นทีมละสองคนและแข่งเป็นระยะทางไกล ความสนิทสนมเชื่อใจกันของนักแข่งจึงมีความสำคัญอย่างมาก นักแข่งจะโดนตัดสิทธิ์ในการแข่งขันทันทีที่มีการทิ้งระยะห่างจากเพื่อนร่วมทีม 2 นาทีครบ 3 ครั้ง นักกีฬาชื่อ “เควิน แมกคอลลัม” สามารถเข้าเส้นชัยในปี ค.ศ.2012 พร้อมกับเพื่อนในทีมอีกคนชื่อ “แจ็ค สตรัคเคน” โดยทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่หลังจากได้ตะลุยเส้นทาง 800 กิโลเมตรด้วยกันทำให้ทั้งคู่รู้สึกเหมือนได้เป็นเพื่อนซี้กันในช่วงระยะทางสุดท้าย
โดยเควินบอกว่าเขาถึงกับซาบซึ้งจนน้ำตาไหลเลย แต่เขาปันจักรยานนำหน้า แจ็ค เพื่อไม่ให้เห็นว่าตัวเองกำลังน้ำตาไหล เขายังหันหลังกับปั่นจักรยานไปบอกแจ็คและบอกว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ บอกว่าแจ็คสามารถช่วยเขาได้ในช่วงที่เขาอยู่ในจุดต่ำสุดได้ขนาดไหน และทำให้เขาคิดว่าสามารถไปถึงเส้นชัยได้ เราสองคนไม่เคยเจอกันมาก่อนมันสุดยอดมากเลย
มันเป็นเพราะความใจเย็นของแจ็ค , ความแข็งแกร่ง และความต้องการของผมที่จะพิสูจน์ว่าคนอื่นคิดผิด มีนักแข่งมืออาขีพหนึ่งคนพนันกับเพื่อน 100 เหรียญแต่เขาไม่สามารถไปถึงเส้นชัยได้ , เขาแพ้
ถ้าหากคุณสงสัยว่าเส้นทาง 800 กิโลเมตรมันจะสร้างความเหนื่อยยากแก่ร่างกายขนาดไหนคุณคิดถูกแล้ว ไม่ใช่แค่มีเส้นทางขรุขระที่จะทำให้นักแข่งเมื่อยสุดๆเท่านั้น , แต่สภาพอากาศร้อนในแอฟริกาก็ทำหน้าที่ทรมาณนักแข่งได้ดีมาก
นักแข่งน้องใหม่ “เจมส์ ฮีราที่” ได้กล่าวถึงการแข่งขันวันที่สามของเขา ซึ่งเกิดขึ้นในปี ค.ศ.2011 ว่า “ผมโดนแดดเผาจนเกรียม” โดยเขาได้เขียนลงในนิตยสาร “Outdoor Fitness” ว่า “แสงอาทิตย์จู่โจมอย่างหนักในขณะที่ผมต้องคอยบังคับล้อหน้าให้นิ่งบนเส้นทางลื่นๆ” ผมยังตั้งมั่นอยู่ได้เพราะว่าเพื่อนร่วมทีมคอยตะโกนส่งกำลังใจ แต่เหงื่อที่สะสมในกางเกงและขาที่อ่อนแรงของผมกำลังบอกผมว่าผมกำลังมีภาวะขาดน้ำ
นักกีฬาชื่อ จอยส์ บีเนท ซึ่งเข้าเส้นชัยในการแข่งขัน Cape Epic มาแล้วหลายครั้งได้ให้คำแนะนำว่า “อย่าไปโฟกัสที่ความเจ็บปวดเพียงจุดเดียว ถ้าหากคุณมีอาการเมื่อยขาอก็แสดงว่าไหล่ก็เริ่มได้รับบาดเจ็บแล้ว , จากนั้นก็ให้ตรวจดูนิ้วของตัวเองด้วย”
Cape Epic Medal
รายละเอียดการแข่งขัน
- ประเภทการแข่งขัน : ปั่นจักรยานภูเขา
- สถานที่ : Western Cape , แอฟริกาใต้
- ระดับความยาก : 8/10
- อันตรายที่เกิดขึ้นได้ : จักรยานล้มบนเขา , งูกัด , โดนแมลงต่อย
ช่องทางศึกษาข้อมูล
- เว็บไซต์ : www.cape-epic.com
- เฟสบุ๊ก : Cape Epic
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming