ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อประเภท Dynamic Stretches มีไว้ใช้ในตอนวอร์มอัพเท่านั้น และในวันนี้เราก็ได้รวบรวมท่าที่มีประโยชน์ต่อนักวิ่งมาให้แล้ว โดยในการวอร์มอัพแต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ท่าเหล่านี้จะช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ ลดโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บในการวิ่ง
Dynamic Stretches ต่างจาก Static Stretches อย่างไร
ท่า Static Stretches จะเป็นท่ายืดกล้ามเนื้อที่เราจะฝึกโดยอยู่นิ่ง ๆ ไม่ต้องเคลื่อนไหว โดยปกติมักจะใช้เวลายืดกล้ามเนื้อ 15-30 วินาที และเราจะใช้ท่าเหล่านี้ในตอนหลังการฝึกเท่านั้น ไม่ควรนำไปใช้ในการวอร์มอัพ
ส่วนท่า Dynamic Stretches นั้นจะเป็นท่ายืดกล้ามเนื้อที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย มีไว้ใช้ในตอนวอร์มอัพเท่านั้น มีไว้เตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมต่อการวิ่ง มีไว้ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ มีไว้เพื่อส่งสัญญาณบอกกล้ามเนื้อให้รู้ว่ามันกำลังจะถูกใช้งาน ดังนั้น เราจะไม่ใช้หลังการฝึก
6 ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อ Dynamic Stretches สำหรับนักวิ่ง
ท่าที่ 1. Leg Swings
ท่านี้จัดว่าเป็นท่าคลาสสิกสำหรับนักวิ่งเลยทีเดียว เป็นท่าที่นั่งวิ่งมืออาชีพมักจะฝึกกัน
วิธีการฝึก
- ยืนหันข้างให้กับกำแพง หรือเสาเพื่อที่จะเอามือยันเอาไว้
- ยกขาที่อยู่คนละด้านกับกำแพง แกว่งไปด้านหน้าและแกว่งกลับมาด้านหลัง
- เกร็งกล้ามเนื้อแกนกลางตลอดเวลา
- แกว่งไปกลับ 15 ครั้งแล้วเปลี่ยนข้าง
ท่าที่ 2. Walking Lunges
เป็นท่าที่ดีกับนักวิ่งอย่างมากเลย เพราะมันจะช่วยฝึกกล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อควอท กล้ามเนื้อหลังต้นขา ก้นและกล้ามเนื้อแกนกลาง ในระหว่างฝึกเราต้องตั้งตัวตรงตลอดเวลา
วิธีการฝึก
- ยืนตัวตรงเอามือทั้งสองข้างวางไว้ที่สะโพก ยกหน้าอกขึ้นมาแล้วเกร็งกล้ามเนื้อแกนกลางตลอดเวลา
- ก้าวขาไปข้างหน้ายาว ๆ แล้วย่อตัวงอเข่าทั้งสองข้าง 90 องศา ย่อตัวทำท่า Lunge ลงมาลึก ๆ โดยที่เข่าด้านหลังจะยกเหนือพื้นเล็กน้อยอย่าให้ลงมาแตะพื้น
- เดินไปด้านหน้าแล้วสลับขาไปเรื่อย ๆ เอาให้ได้ 15 ก้าวแล้วกลับหลังหันเดินกลับมาอีก 15 ก้าว
ท่าที่ 3. Marching Hurdles
ท่านี้จะเหมาะกับนักวิ่งที่มีปัญหากล้ามเนื้อก้นแน่นเกินไป นอกจากนี้ยังช่วยฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางและเป็นการฝึกการทรงตัวโดยใช้ขาข้างเดียวอีกด้วย
วิธีการฝึก
- ยืนตัวตรงและยกเข่าข้างหนึ่งขึ้นมาด้านบนจนงอ 90 องศา
- เมื่อยกขึ้นมาสูงระดับหน้าอกแล้ว หมุนก้นเพื่อให้ขาออกไปด้านข้าง
- หมุนกลับมา วางขาลงกลับที่เดิม
- ทำให้ได้ข้างละ 15 ครั้ง
ท่าที่ 4. Bird Dog
ท่านี้จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อทั่วทั้งด้านหลังเลย เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อสะโพกและกล้ามเนื้อแกนกลาง
วิธีการฝึก
- เริ่มต้นในท่ายืน 4 ขา เอาเข่าวางลงพื้น ตำแหน่งของหัวไหล่จะต้องอยู่เหนือข้อมือ
- ยกแขนขวากับขาซ้ายชี้ตรงไปด้านหน้า จากนั้นให้นำศอกขวาและเข่าซ้ายมาแตะกัน ให้ได้ 30 ครั้ง
- เปลี่ยนมายกแขนซ้ายกับเข่าขวาบ้าง คราวนี้ให้ได้ 30 ครั้งเช่นกัน
ท่าที่ 5. Heel and toe walks
ท่านี้จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อหน้าแข้ง น่อง ข้อเท้า และกล้ามเนื้อเท้า
วิธีการฝึก
- เดินไปข้างหน้าด้วยปลายนิ้วเท้า 30-50 เมตร
- เดินกลับมาที่เดิมโดยใช้ส้นเท้าในการเดิน
- ทำซ้ำอีก 1 รอบ
ท่าที่ 6. Lateral lunges with overhead stretch
ท่านี้จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อควอท กล้ามเนื้อสะโพก ก้น กล้ามเนื้อแกนกลาง หัวไหล่และอื่นๆ
วิธีการฝึก
- ยืนตัวตรงก้าวขาขวาไปด้านข้าง ก้าวยาว ๆ หน่อย จากนั้นงอเข่าย่อตัวลงมา
- ในขณะเดียวกันก็ให้ยกแขนซ้ายขึ้นเหนือศีระแล้วเอนตัวไปทางขวา
- ทำสลับข้างกันไปเรื่อย ๆ ให้ได้ข้างละ 15 ครั้ง
แหล่งที่มา : https://bit.ly/4fcf87Q
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming