ทำไมความล้มเหลวถึงสามารถทำให้คุณเป็นนักกีฬาที่ดีขึ้น
ผมเคยกลัวที่จะล้มเหลว ผมเคยคิดว่าความล้มเหลวทำให้ผมดูเป็นคนอ่อนแอ ผมจึงพยายามไม่ทำอะไรที่ยากเกินไปเพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นคนล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
ผมใช้ชีวิตแบบไม่พยายามทำอะไรใหม่ๆ และอยู่แบบคนเรียบง่ายที่ทำตามมาตรฐานและบรรทัดฐานของสังคม
มี 2 เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในชีวิตผมที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปตลอดกาล
ลากูน่า ภูเก็ตมาราธอน 2011
ณ เวลา 9 โมงเช้า ที่ ภูเก็ต ผมกำลังแย่ แค่เพียงการเดินในเวลานั้นก็ยากมากสำหรับผมแล้ว และข้างหน้าผมคือป้ายบอกทาง กิโลเมตรที่ 29
สองชั่วโมง ก่อนหน้านั้น ผมเหมือนบิน และ ลอยอยู่บนพื้นถนนในทางวิ่งขึ้นลงของการแข่ง
แล้ว 21 กิโลเมตร แรกก็ผ่านไปด้วยเวลา 1:58 ชั่วโมง
ถึงนาทีนั้นทุกอย่างดูง่ายไปหมด และหลังจากผ่านไปครึ่งทางแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผมหวังสูงถึงขั้นจบการแข่งมาราธอนครั้งแรกนี้ให้ได้ก่อน 4 ชั่วโมง
แต่หลังจากนั้น ระยะทางของมาราธอน ก็เริ่มให้บทเรียนครั้งสำคัญที่ผมไม่มีวันลืม
ช่วงครึ่งหลังของการวิ่งมาราธอน ผมต้องเดินสลับกับวิ่งเหยาะ ทีละ 1 กิโลเมตร เกิดอะไรขึ้น? ผมก็ซ้อมเตรียมตัวมาวิ่งงานนี้พอสมควร แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ ? คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว ณ เวลานั้น และแน่นอนว่า ผมไม่รู้คำตอบของคำถามพวกนั้นแม้แต่ข้อเดียว
ที่ ภูเก็ตวันนั้น ผมเรียนรู้เกี่ยวกับระยะทางและการวางแผนการใช้ความเร็วในมาราธอน
IRONMAN Langkawi 2014
ผมเตรียมตัวซ้อมเพื่อเข้าแข่ง IRONMAN Langkawi ด้วยเป้าหมายเดียวคือ “แค่จบการแข่ง” และถึงแม้ผมจะไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายในการแข่งครั้งนี้ แต่ผมก็พยายามซ้อมให้ดีที่สุดเพื่อให้เข้าเส้นชัยได้ให้ภายในเวลา 17 ชั่วโมง
ช่วงการว่ายน้ำ 3.8 กิโลเมตรผ่านไปได้โดยราบรื่นและผมจบช่วงนี้ที่เวลา 1:23 ชั่วโมง หลังจากผ่านจุดเปลี่ยนจากว่ายน้ำมาเป็นจักรยาน และพอเริ่มปั่นจักรยานผมก็ได้รู้ตัวว่าได้ทำเม็ดเกลือที่เตรียมไว้หายทั้งหมดในจุดเปลี่ยนการแข่ง นั่นทำให้ผมต้องเปลี่ยนแผนการกินจากการกินอาหารแบบเหลวมาเป็นการกินอาหารแบบเคี้ยวเพื่อหวังว่าจะได้สารอาหารทดแทนจากการทำเม็ดเกลือหายไปในจุดเปลี่ยน
นั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมาก เพราะอาหารที่ผมกินเข้าไปทั้งหมดไม่ถูกย่อยและดูดซึมเข้าไปในร่างกาย เพราะผมแทบจะไม่เคยฝึกกินอาหารแบบที่ต้องเคี้ยวในช่วงการฝึกซ้อมเลย
จนในที่สุดตลอดช่วงครึ่งหลังของการปั่นจักรยาน 180 กิโลเมตร ผมจึงไม่สามารถก้มลงอยู่บน Aerobar และ อยู่ใน Aero Position ได้เลย เพราะบริเวณหน้าท้องมีอาการบวมจากอาหารไม่ย่อย
ผมจบการแข่ง IRONMAN ครั้งแรกในชีวิตด้วยเวลา 16:02 ชั่วโมง
ผมล้มเหลวที่ลังกาวี และผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการวางแผนการกินในวันแข่ง
ทั้งสองรายการ ผมล้มเหลวและจบการแข่งด้วยประสบการณ์ที่ไม่ดีมากนัก แต่ ทั้งสองงานแข่งนี้ก็ได้มอบบทเรียนครั้งสำคัญที่ทำให้ผมรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการทำผลงานให้ดีที่สุดในวันแข่ง
ผมโชคดีที่เคยล้มเหลว และได้เรียนรู้จากมัน
สิ่งที่ผมอยากบอกคือ อย่ากลัวที่จะล้มเหลว
จงตั้งเป้าหมายและพยายามให้ดีที่สุด เพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น
เพราะท้ายที่สุดแล้ว คุณไม่ได้ ชนะหรือแพ้ แต่คุณจะ ชนะหรือเรียนรู้จากมัน.
TC triathlon
Subscribe, like and share for more useful articles, photo and VDO clips at
Facebook: https://www.facebook.com/MrTCtriathlon/
Instagram: https://www.instagram.com/tctriathlon/
Twitter: https://twitter.com/MrTCtriathlon
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCXnq4NAFhRLwm45LvYl8vhQ