รวมเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิด เกี่ยวกับการวิ่ง
หลังจากที่ผมเริ่มวิ่งและเริ่มไปงานวิ่งเป็นประจำ ก็เริ่มมีคนรอบตัวหลาย ๆ คนเข้ามาชวนผมคุยเกี่ยวกับเรื่องวิ่ง บางคนอยากเริ่มวิ่งบ้าง บางคนก็อยากลองลงงานวิ่งแบบผมดูบ้าง บางคนก็มาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการซ้อมวิ่ง ซึ่งสิ่งที่ผมได้จากการพูดคุยกับคนเหล่านี้ คือ ผมได้รู้ว่ามีหลายคนเลยที่ยังเข้าใจ เกี่ยวกับการวิ่ง แบบผิด ๆ อยู่ เป็นสาเหตุให้บางคนไม่ยอมออกมาวิ่ง
หลายคนไม่กล้าไป งานวิ่ง หรือแม้กระทั่งความเข้าใจผิดต่อหลักการวิ่งที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดอาการบาดเจ็บและล้มเลิกการวิ่งไปกลางทาง วันนี้เลยอยากจะขอรวบรวมความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการวิ่ง มาให้ได้อ่านและศึกษากันครับ
วิ่งแล้วข้อเข่าเสื่อม
ฮอตฮิตสุดก็อันนี้แหละ ขอชี้แจงตรงนี้เลยว่า ไม่ว่าจะทดสอบด้วยตัวเองหรือจะอ้างอิงจากผลวิจัยของที่ไหนก็ตาม ไม่มีผลวิจัยที่รายงานว่า การวิ่งเป็นสาเหตุให้ข้อเข่าเสื่อม เลยครับ!! ในทางกลับกัน นักวิ่งส่วนมากมีความเสี่ยงที่จะข้อเข่าเสื่อมต่ำกว่าคนที่ไม่วิ่งเสียอีก
คนที่กลัวข้อเข่าจะเสื่อม ผมแนะนำให้ออกมาวิ่ง … ไม่ๆ ผมไม่ได้กวน แต่เพราะสาเหตุหลักของข้อเข่าเสื่อมก็ คือ การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ดังนั้นถ้ากลัวเข่าเสื่อมมากนักก็รีบออกมาวิ่งซะ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงแล้วยังช่วยให้มีหุ่นกระชับ รับรุกได้ทุกสถานการณ์อีกด้วย เริ่มต้นจากการเดินเร็วๆ แล้วจ้อกกิ้งเบาๆ ก็ได้
ไปงานวิ่งต้องวิ่งอย่างเดียว ห้ามเดิน
นี่เป็นอีกข้อที่เข้าใจผิดกันมาก ได้ยินแบบนี้ทีไร อยากจะกุมมือเบา ๆ แล้วพาไปดูที่งานวิ่ง ให้เห็นจริงกับตาเลยว่า “เดินกันเกลื่อน!!” … คืองี้ครับ งานวิ่งเนี่ย โดยปกติจะมีคนอยู่สามกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นพวกขาแรง ล่าถ้วย กลุ่มต่อมาเป็นพวกทางสายกลาง จะวิ่งตลอดทางก็ได้ จะวิ่งสลับเดินก็ได้ คือมาวิ่งเอาบรรยากาศ เอามันส์ มาเอาชนะใจตัวเอง
กลุ่มสุดท้ายคือสายชิล ซึ่งจะเป็นนักวิ่งกลุ่มที่วาไรตี้มากที่สุดแล้วครับ มีทั้งมาแบบครอบครัว พาตัวเล็กมาด้วย มาแบบกลุ่มเพื่อนเฮฮา มาแบบตรูมาลองครั้งแรก กับแบบที่เวลาจะดีไม่ดีไม่สน สนแค่รูปตรูต้องออกมาดูดี (ซึ่งถ้าอยากได้รูปที่ดูดีแบบสุด ๆ ต้องวิ่งช้านะครับ เพราะถ้าวิ่งเร็ว สภาพจะดูไม่ค่อยได้เท่าไร ไม่แนะนำเลย 55+) สรุปว่า ถ้าอยากไปงานวิ่ง ก็ไปเถอะครับ เดินได้ วิ่งได้ แต่อย่าเอาไม้แหย่รู!! (ฮัมเพลงกับตัวเองเบา ๆ )
อยากวิ่งเก่ง ๆ ต้องซ้อมวิ่งหนัก ๆ
ข้อนี้ผมยอมรับว่าผมเองก็เคยเป็น ตะบี้ตะบันซ้อมวิ่งมันทุกวัน แทนที่จะเก่ง ดันต้องมาเจ็บแทน … ปวดใจมาก ทำไมทำดีไม่ได้ดี … พอมาศึกษาดี ๆ อ่อ ไอ้ที่เราทำมันผิดว่ะ ที่จริงแล้วเราต้องมีวันวิ่ง + วันพัก วันที่ไปออกกำลังกายแนวอื่น ๆ หรือที่เรียกว่า cross training บ้าง เช่น เวท , กระโดดเชือก , ว่ายน้ำ , ปั่นจักรยาน , โยคะหรือกีฬาอะไรที่อยากจะทำ
เพราะกิจกรรมเหล่านั้นจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย แถมยังช่วยให้การวิ่งของเราดีขึ้นด้วย ส่วนวันพักก็ควรมีเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง เพื่อความแข็งแรงที่มากขึ้นทีละสเต็ปนั่นเอง
เอาล่ะ เมื่อเข้าใจถูกต้องกันทุกคนแล้ว ถ้าใครกลัวตัวเองจะข้อเข่าเสื่อม ก็ให้รีบออกมาวิ่งซะ ส่วนใครที่ยังกลัวว่าในงานวิ่งเขาจะห้ามเดิน หรือกลัวว่าเดินในงานวิ่งแล้วจะเสียฟอร์ม มาลองลงงานวิ่งพร้อมผมดูไหม เดี๋ยวไปรับที่บ้าน (ขอค่าน้ำมันด้วยครับ ช่วงนี้ร้อนเงิน) ใครอยากวิ่งเก่ง ๆ อย่าสักแต่วิ่ง เปลี่ยนไปปั่นจักรยานบ้างเป็นบางวัน เล่นเวทบ้างอะไรบ้าง แล้วจะเจ๋งขึ้นอีกโข เชื่อผม!!