5 เคล็ดลับความสำเร็จของ Nathaniel Finestone , คุณปู่วัย90ปีที่เพิ่งทุบสถิติ 5K ด้วยเวลา Sub-40:00
Nathaniel Finestone คือคุณปู่วัย 90 ปี ที่เริ่มวิ่งตั้งแต่อายุ 60 จนถึงทุกวันนี้ และนี่คือเคล็ดลับในการวิ่งให้ร่างกายแข็งแกร่งของเขา
เขาเริ่มต้นวิ่งในตอนที่เขาอายุ 60 ปี ด้วยสาเหตุทางด้านสุขภาพ เขามีอาการไตอักเสบขั้นรุนแรงจนทำให้แพทย์เชื่อว่าเขาอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มตระหนักถึงความตายที่อยู่ใกล้เข้ามาทุกที
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ยอมพ่ายแพ้ให้แก่ปัญหาสุขภาพของตัวเอง เขาต้องการพิสูจน์ว่าเขาสามารถมีอายุที่ยืนยาวกว่าที่แพทย์ประเมินไว้ได้ เขาจึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนแปลงสุขภาพของตัวเองให้ดีขึ้น!
เขาตัดสินใจเริ่มต้นออกกำลังกายครั้งแรกด้วยการเดิน จากนั้นจึงค่อยๆยกระดับเป็นการวิ่ง เขาบันทึกการออกกำลังกายของตัวเองอย่างละเอียดและพิถีพิถันมาตลอดระยะเวลา 30 ปี
ตอนนี้เขาเป็นคุณปู่อายุ 90 ปี ที่เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งในรายการ USA Track and Field และสร้างสถิติในรุ่นกลุ่มอายุ 90–94 ปี และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาได้รับรางวัลในการแข่งขัน USATF Masters 5K Championships ที่แอตแลนตา โดยทำเวลาเพียง 39:06
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมเขาวิ่งไปที่งาน Masters 1-Mile Championships ใน Michigan รุ่นกลุ่มอายุ 90-94 ปี และสร้างสถิติใหม่ด้วยเวลา 12:50
ต่อไปนี้คือ 5 เคล็ดลับความสำเร็จของ Nathaniel Finestone ที่ทำให้เขายังสามารถวิ่งสร้างสถิติใหม่อยู่ได้ในวัย 90 ปี
1. ฝึกฝนอย่างมีวินัย
เมื่อสัญญาณเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในตอนเช้า จงซื่อสัตย์และลุกขึ้นมาพาตัวเองออกไปวิ่งให้ได้ อย่างีบหลับ! ทุกวันนี้เขาตื่นตี 5 และออกไปวิ่งในช่วงเช้าเป็นประจำ เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครหลายๆคน แต่เขาเชื่อว่าการมีวินัยเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้
2. เลือกกินอาหารเช้าที่มีประโยชน์
เรื่องอาหารการกินถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ เขาไม่ได้ชอบกินอาหารเดิมซ้ำๆทุกวัน แต่เขาก็จำเป็นต้องเลือกกินอาหารตามแผนการที่ได้วางไว้ เราต้องวางแผนสำหรับสิ่งที่เราจะทานเข้าไปในร่างกาย เพราะการเลือกรับประทานอาหารก่อนหรือหลังการออกกำลังกาย จะส่งผล ต่อการทำงานของร่างกายและประสิทธิภาพในการวิ่ง เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า เขาคิดว่าอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดีและมีอายุที่ยืนยาว
สำหรับอาหารเช้าเขามักจะกินธัญพืชกับนม ลูกเกด และน้ำ 12 ออนซ์ สำหรับมื้อกลางวันเขาจะกินผลไม้และถั่ว และสำหรับมื้อเย็นเขาจะเลือกกินโปรตีนบางประเภทเท่านั้น
เขามักจะตื่นนอนก่อนตี 5 แล้วออกไปวิ่ง จากนั้นจึงกลับมาทานมื้อเช้า สำหรับในวันแข่งเขาจะกินอาหาร 2-3 ชั่วโมงก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น
3. ค้นหาสิ่งที่จะทำให้เรายึดมั่นต่อไปได้
ค้นหาสิ่งที่จะช่วยทำให้เรายึดมั่นทำกิจวัตรประจำวันของเราอยู่เสมอ เขาเชื่อว่าความศรัทธาและความมุ่งมั่นตั้งใจจะทำให้เราสามารถทำในสิ่งที่เราตั้งใจไว้ได้ มันเหมือนเป็นการเติมเชื้อเพลิงในจิตใจให้เราขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างไม่มีหยุด เหมือนกับที่เขายังสามารถวิ่งได้อย่างแข็งแรงจนถึงอายุ 90
4. พาตัวเองไปอยู่ในการแข่งขันเพื่อสร้างแรงผลักดัน
ระหว่างการแข่งขันเขามักจะเหลียวมองคนอื่นๆในรุ่นกลุ่มอายุเดียวกันว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ เพื่อที่เขาจะได้เร่งผลักดันตัวเอง โดยใช้เพื่อนๆในสนามแข่งขันเป็นตัวช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เขาพยายามทำให้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้ชนะคนอื่นๆเสมอไปก็ตาม
5. ฟังเสียงร่างกายของตัวเอง
การก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายอาจจะทำให้เกิดอันตรายจนทำให้เราได้รับบาดเจ็บได้ เขากล่าวว่าในบางครั้งเขารู้สึกดีมากขณะที่ก้าวเท้าออกจากประตูบ้าน แล้วก็ออกวิ่งประมาณ 10-13 ไมล์ (ประมาณ 16-20 กิโลเมตร) แต่มันก็ไม่ได้ราบรื่นแบบนี้ทุกครั้ง ในบางวันเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาอ่อนแรง ออกไปวิ่งได้ระยะทางน้อยกว่าครึ่งไมล์เท่านั้นก็ต้องกลับมานอนพักที่บ้าน
ทำให้เขาตระหนักได้ว่าเมื่อเราเริ่มแก่ตัวลง การยอมรับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างเช่น เขารู้ดีว่าไม่สามารถวิ่งในระยะทางที่เท่ากันได้ทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงพยายามทำตามเป้าหมายพร้อมกับฟังเสียงร่างกายของตัวเองไปด้วย
ที่มา : runnersworld
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
[AD]
แจกจริง แจกหนัก GARMIN, SUUNTO, FITBIT 122 วัน 122 เรือน
เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC คลิก bit.ly/ฺBNC122
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling#Triathlon#Swimming