คาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง ออกกำลังกายเวลาไหนได้ประโยชน์สูงสุด
การออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพควรประกอบไปด้วย การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) และการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) เพราะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและช่วยลดความดันโลหิตได้ ในขณะที่การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกพร้อมกับปรับสภาพกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
แต่มีการถกเถียงกันว่า การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในตอนเช้าและเล่นเวทเทรนนิ่งในตอนเย็น สามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายของการออกกำลังกายได้เร็วขึ้น ในบทความนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า คาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง เราควรออกกำลังกายเวลาไหนจึงจะได้ประโยชน์สูงสุด
คาร์ดิโอในตอนเช้า
เมื่อเราตื่นขึ้นมาหลังจากการนอนหลับพักผ่อน 7-8 ชั่วโมง ร่างกายจะยังไม่ได้รับพลังงานจากการรับประทานอาหารอย่างเต็มที่ ดังนั้นเราควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในตอนเช้า มากกว่าที่จะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการลุกขึ้นมาใช้พลังงานอย่างหนักหน่วง เพราะคาร์ดิโอจะใช้พลังงานน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการยกน้ำหนัก ทำให้โอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกายมีน้อย
นอกจากนี้คาร์ดิโอยังจะช่วยปรับอารมณ์ของเรา ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า เป็นการเพิ่มพลังบวกได้ทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตทั้งวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เวทเทรนนิ่งในตอนเย็น
สำหรับการยกน้ำหนักหรือเวทเทรนนิ่งเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับช่วงเย็นมากกว่า เพราะเป็นเวลาที่อุณหภูมิร่างกายอยู่ในระดับปกติ แต่บางคนอาจจะชอบเล่นเวทในช่วงบ่ายมากกว่าก็เป็นได้
จากการวิจัยพบว่า การฝึกด้วยการใช้น้ำหนักในตอนเย็นอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นั่นเป็นเพราะการทำงานของฮอร์โมนสองชนิด คือ คอร์ติซอลและเทสโทสเตอโรน ซึ่งเชื่อกันว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ โดยที่ระดับคอร์ติซอลและเทสโทสเตอโรนจะสูงที่สุดในตอนเช้า และระดับคอร์ติซอลจะลดลงในตอนเย็น
คอร์ติซอลมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยการทำลายเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อเมื่อจำเป็น กระบวนการนี้เรียกว่า Catabolism ในทางกลับกันเทสโทสเตอโรนหรือฮอร์โมนเพศชายช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อโดยใช้โปรตีน ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า Anabolism
การศึกษาชี้ให้เห็นว่า อัตราส่วนของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่อคอร์ติซอลจะสูงที่สุดในตอนเย็น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
บทสรุป
แม้ว่าจะมีข้อมูลมาสนับสนุน แต่เราทุกคนต่างก็มีกิจวัตรประจำวัน เวลาตื่นนอน และเวลาเข้านอนไม่เหมือนกัน บางคนชอบออกกำลังกายในตอนเช้า ในขณะที่บางคนคิดว่าการออกกำลังกายในตอนเย็นเป็นเวลาที่สะดวกมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะออกกำลังกายประเภทไหนและช่วงเวลาใด ก็เป็นผลดีกับร่างกายมากกว่าการไม่ออกกำลังกายเลย ดังนั้น เราควรออกกำลังกายเป็นเวลา 30 ถึง 40 นาทีทุกวัน โดยจะเลือกออกกำลังกายในตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ และอย่าลืมวอร์มอัพและคูลดาวน์ก่อนและหลังออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายที่อาจเกิดขึ้นได้
ที่มา : https://bit.ly/3kzUmC5
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming