วิ่งก่อนทานอาหารเช้า ดีต่อการลดน้ำหนักจริงหรือไม่
ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะมีช่วงเวลาการออกกำลังกายอยู่สองแบบดังนี้คือ
- กลุ่มคนที่ออกไปวิ่งตั้งแต่เช้า โดยที่ยังไม่ได้ทานอะไร
- กลุ่มคนที่ต้องใส่อะไรลงท้องก่อนเสมอ
แต่คนกลุ่มแรกจะได้รับประโยชน์มากกว่าหรือเปล่านั้น คำตอบคือ เป็นไปได้
อ้างอิงข้อมูลจากการวิจัยในประเทศอังกฤษ มีงานวิจัยเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งผลการวิจัยถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of Clinical Endocrinology & Metabolism โดยมีผู้ชายที่มีน้ำหนักเกินและไม่ได้ออกกำลังกาย มาเป็นอาสาสมัครเข้าร่วมการวิจัยจำนวน 30 คน โดยในการวิจัยจะมีการแบ่งอาสาสมัครเป็นสามกลุ่มดังนี้
- กลุ่มที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย
- กลุ่มที่ทานแต่อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเป็นมื้อเช้า แล้วจึงไปออกกำลังกาย
- กลุ่มที่ไปออกกำลังกายก่อน แล้วค่อยกลับมาทานมื้อเช้า ซึ่งเป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดเช่นกัน
กลุ่มคนที่ออกกำลังกายจะต้องปั่นจักรยานด้วยความเข้มข้นระดับปานกลาง 3 วันต่อสัปดาห์ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ 1-3 จะต้องใช้ระดับความเข้มข้น 50% จากพลังที่ตัวเองมีอยู่ และในช่วงสัปดาห์ที่ 4-6 ก็เพิ่มระดับความเข้มข้นเป็น 55%
ในช่วงสัปดาห์ที่ 1 จะต้องปั่นจักรยานให้ได้ 30 นาที , สัปดาห์ที่ 2 เพิ่มเป็น 40 นาที และในช่วงสัปดาห์ที่ 3-6 จะต้องเพิ่มเวลาเป็น 50 นาทีต่อวัน
อาสาสมัครจะต้องทานคาร์โบไฮเดรตเป็นอาหารเช้าเท่านั้น (สองชั่วโมงก่อนและหลังการออกกำลังกาย) โดยพวกเขาจะได้รับเครื่องดื่มที่มีคาร์โบไฮเดรตจำนวน 1.3 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก. และมีผงปรุงรสวนิลาอยู่ 20% ส่วนพวกอาสาสมัครกลุ่มที่ไม่ได้ออกกำลังกายก็ต้องทานมื้อเช้าแบบนี้สามวันต่อสัปดาห์ และในตอนกลางวันจะได้รับเครื่องดื่มที่เป็นยาหลอกไปด้วย
นักวิจัยพบว่าอาสาสมัครกลุ่มที่ออกกำลังกายก่อนทานมื้อเช้าสามารถเผาไขมันได้มากกว่าคนที่ออกกำลังกายหลังทานมื้อเช้าถึง 2 เท่า!! และมีการตอบสนองต่ออินซูลินที่ดีกว่า แต่สิ่งที่โดดเด่นก็คือ คนทั้งสองกลุ่มนี้ลดน้ำหนักได้ในปริมาณเท่ากัน และได้รับความฟิตที่เท่ากัน กล่าวโดย “ดร.เจเวียร์ กอนซาเลส” ผู้ควบคุมการวิจัยครั้งนี้
หนึ่งในเหตุผลที่เป็นไปได้ว่าทำไมการออกกำลังกายก่อนทานมื้อเช้าทำให้มีการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น อ้างอิงข้อมูลจาก ดร.กอนซาเลส เป็นเพราะมันอยู่ในช่วงที่ร่างกายมี “กรดไขมัน” ที่พร้อมจะถูกเอาไปใช้เป็นพลังงานในตอนที่ร่างกายไม่มีกลูโคส (เพราะไม่ได้กินอะไรมาตลอดทั้งคืน) นั่นเอง
ในตอนที่เราออกกำลังกายเราจะเพิ่มจำนวนของกรดไขมันซึ่งจะถูกกล้ามเนื้อเอาไปใช้งาน มันจะมีการส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อให้เริ่มทำการปรับตัว โดยดร.กินซาเลสได้บอกว่า “ด้วยการออกกำลังกายหลังจากที่เรามีการ Fasting มาตลอดทั้งคืน เท่ากับว่าเราได้เพิ่มจำนวนกรดไขมันที่กล้ามเนื้อสามารถเอาไปใช้งานได้”
และมันจะสามารถมอบประโยชน์ทางสุขภาพให้เราได้มากกว่าด้วยการเผาผลาญไขมันในกล้ามเนื้อมากขึ้น , กล้ามเนื้อจะเริ่มปรับตัวให้เข้ากับการออกกำลังกาย ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะยิ่งกล้ามเนื้อปรับตัวมากขึ้นเท่าไหร่ กล้ามเนื้อจะยิ่งปรับตัวมากขึ้นเท่านั้น
ดร.กอนซาเลสและทีมงานจะพบว่ากล้ามเนื้อมีการผลิตโปรตีนที่ช่วยนำเอาน้ำตาลออกจากกระแสเลือดมากขึ้น , ทำให้เรามีระดับอินซูลินที่ลดลง , ทำให้สุขภาพดีมากขึ้น
การมีระดับอินซูลินสูงมีความเชื่อมโยงกับการเป็นเบาหวานประเภทที่ 2 และโรคหัวใจ ดังนั้นการลดระดับอินซูลินจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคพวกนี้ได้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อจำกัดของงานวิจัยที่เราต้องพิจารณาคือ นี่เป็นการวิจัยกับผู้ชายที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนเท่านั้น จึงยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะส่งผลลัพธ์แบบเดียวกันกับผู้หญิงหรือไม่ รวมไปถึงคนที่มีน้ำหนักปกติด้วย ซึ่งจำเป็นต้องมีการวิจัยให้ละเอียดมากขึ้นต่อไป
ยิ่งกว่านั้นถ้าหากเพื่อนๆกำลังพยายามออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักหรือเพื่อให้สุขภาพดีขึ้น ก็ยังไม่ควรยึดถือว่า วิธีการออกกำลังกายก่อนอาหารคือคำตอบที่ดีที่สุด ผลลัพธ์มันยังไม่ดีพอที่จะทำให้เราควรฝืนทนตื่นเช้าเพื่อออกไปวิ่งก่อนอาหารเช้า ถ้าหากว่าเราไม่มีเวลาหรือไม่ใช่คนตื่นเช้าเป็นประจำ
“การออกกำลังกายเวลาอื่นนั้นย่อมดีกว่าการไม่ออกกำลังกายเลย” กล่าวโดย ดร.กอนซาเลส ในขณะที่ผลลัพธ์จากการทดลองนั้นจะช่วยคนที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก , แต่ว่าร่างกายของคนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และในท้ายที่สุดนี้คือเพื่อนๆควรเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม กุญแจสำคัญก็คือการมีช่วงเวลาออกกำลังกายที่เหมาะสมกับบุคคลิก , ไลฟ์สไตล์ และตารางเวลาของเรา หรือพูดอีกอย่างก็คือไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายก่อนอาหารเช้า ถ้าหากว่าทำไม่ได้จริงๆ การออกกำลังกายไม่ว่าจะเวลาใดก็ยังดีกว่าการไม่ได้ออกกำลังกายเลย
ที่มา : https://bit.ly/2qajclG
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming