30 สุดยอดรองเท้าวิ่ง (ถนน-เทรล) ที่คว้ารางวัล Runner’s World Shoe Awards 2020 (ตอนที่ 1/3)
นิตยสารนักวิ่งระดับโลก Runner’s World ได้ทำการทดสอบรองเท้าวิ่งเกือบ 100 คู่ โดยใช้ผู้ร่วมทดสอบกว่า 300 คน ซึ่งแต่ละคนสวมใส่รองเท้าและทดลองวิ่งเป็นระยะทางมากกว่า 100 ไมล์ (161 กม.) เพื่อค้นหาสุดยอดรองเท้าวิ่งที่จะได้รับรางวัล Shoe Awards 2020 และต่อไปนี้คือ 30 สุดยอดรองเท้าวิ่ง (ถนน-เทรล) ที่คว้ารางวัล Runner’s World Shoe Awards 2020 (ตอนที่ 1/3) โดยเราจะแบ่งย่อยบทความออกเป็น 3 ตอน โดยในแต่ละตอนจะนำเสนอรองเท้าวิ่งจำนวน 10 คู่ พร้อมแล้วไปเริ่มตอนที่ 1 กันเลย
1. Reebok Forever Floatride Energy 2.0
ราคา: $ 100 (3,248 บาท)
น้ำหนัก: 250 กรัม (ชาย), 207 กรัม (หญิง)
Drop: 10 มม. (ชาย), 10 มม. (หญิง)
มีรองเท้าวิ่งคุณภาพดีอยู่ไม่กี่คู่ที่จะสามารถหาซื้อได้ในราคาเพียงร้อยเหรียญเท่านั้น แต่ Forever Floatride Energy ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่ถูกและดีจริง พื้นรองเท้า midsole เป็นโฟม Floatride ของ Reebok ที่ใช้เม็ดพลาสติก TPE ให้ความรู้สึกเบาและมีชีวิตชีวามากกว่ารองเท้าที่มีราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งรองเท้าอื่นๆ ทั่วไปจะใช้ EVA ที่ให้พลังงานน้อยกว่า
2. Brooks Ghost 12
ราคา: $ 127 (4,125 บาท)
น้ำหนัก: 280 กรัม (ชาย), 233 กรัม (หญิง)
Drop: 11มม. (ชาย), 11 มม. (หญิง)
Brooks Ghost เป็นรองเท้าวิ่งที่เคยได้รับรางวัล Editors ‘Choice มาแล้วถึง 8 ครั้ง เพราะเป็นรองเท้าที่เหมาะกับนักวิ่งตั้งแต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้กับการวิ่งทุกระดับ ทั้งแบบ Long Run และ Speed Run ซึ่งสิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญคือการผสมผสานของโฟมสองรูปแบบ นั่นคือ DNA Loft ที่ส้นเท้า และ BioMoGo DNA ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า ทำให้การวิ่งนุ่มสบายเท้า รุ่นนี้มีการออกแบบตาข่ายด้านบนใหม่ที่สามารถยืดการระบายอากาศและโอบอุ้มเท้าได้ดี
3. Saucony Triumph 17
ราคา: $ 150 (4,875 บาท)
น้ำหนัก: 309 กรัม (ชาย), 252 กรัม (หญิง)
Drop: 10 มม. (ชาย), 10 มม. (หญิง)
ผู้ทดสอบพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพการกันกระแทกของรองเท้ารุ่นนี้ไว้ว่า มาจากโฟม midsole PWRRUN+ ตัวใหม่ของแบรนด์ Saucony ที่มีความทนทานและเบากว่ารุ่นก่อนถึง 28 เปอร์เซ็นต์ ทำให้รู้สึกสปริงตัวและยืดหยุ่นมากขึ้นขณะวิ่ง
4. New Balance Fresh Foam X 1080 v10
ราคา: $ 150 (4,875 บาท)
น้ำหนัก: 272 กรัม (ชาย), 218 กรัม (หญิง)
Drop: 7 มม. (ชาย), 6 มม. (หญิง)
รองเท้าเทรนเนอร์ที่หรูหราที่สุดในนิวบาลานซ์ที่ถูกหยิบมาปรับปรุงให้มีความ “เด้ง ตอบสนอง และเบา” ซึ่งทีมทดสอบมอบเครดิตให้กับพื้นรองเท้า midsole ที่เป็น Fresh Foam ทำให้รองเท้านิ่ม เบา และตอบสนองได้ดี และไม่ได้รู้สึกแข็งจนเกินไปเพราะมันถูกออกแบบมาให้มีความโค้งมากขึ้นโดยเฉพาะที่ใต้ฝ่าเท้า และแผ่นรองเท้าด้านในของ Ortholite ช่วยเพิ่มความสบายให้เท้าได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านบนใช้ผ้าถักแบบผืนเดียวยาวต่อเนื่องไปจนถึงปลายเท้า
5. Skechers GOrun Razor 3 Hyper
ราคา: $ 135 (4,380 บาท)
น้ำหนัก: 187 กรัม (ชาย), 150 กรัม (หญิง)
Drop: 6 มม. (ชาย), 6 มม. (หญิง)
รองเท้าที่ออกแบบมาสำหรับ High-Speed Trainer และเป็นรองเท้าแข่ง พื้นรองเท้าชั้นกลางที่แปลกใหม่เรียกว่า Hyperburst เป็นโฟมที่ใช้ EVA แต่แตกต่างจากรองเท้าอื่นๆตรงนี้ Skechers ใช้ CO2 ที่ให้ความร้อนมากกว่าปกติ ผสมกับเม็ดพลาสติก EVA ทำให้โฟมที่ได้นั้นมีโครงสร้างที่แข็งแรงมั่นคง แม้ว่าโฟมค่อนข้างแข็ง แต่ก็ยังสปริงตัวได้ดี สามารถปกป้องเท้าได้
6. Hoka One One Rincon
ราคา: $ 115 (3,733 บาท)
น้ำหนัก: 218 กรัม (ชาย), 179 กรัม (หญิง)
Drop: 9 มม. (ชาย), 7 มม. (หญิง)
รองเท้าที่มีน้ำหนักเบาคู่นี้เหมือนกับ Clifton รุ่นดั้งเดิม พื้นรองเท้า EVA ที่เบาและนุ่มทำงานร่วมกับด้านบนของรองเท้าที่ช่วยล็อคเท้าได้ดี แต่จากการทดสอบพบว่าหลังผ่านการใช้งานไปประมาณสามสี่ร้อยกิโลเมตร เริ่มพบปัญหาเรื่องการสึกหรอเล็กน้อย
7. Nike ZoomX Vaporfly Next%
ราคา: $ 250 (8,116 บาท)
น้ำหนัก: 187 กรัม (M; unisex)
Drop: 8 มม.
รองเท้าวิ่งที่ขึ้นชื่อเรื่อง “ความเร็ว” ด้วยการผสมผสานของโฟม ZoomX ประกบกับแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ ตัวโฟมที่ผลิตจาก Pebax มีน้ำหนักเบามาก รองรับแรงกระแทกได้ดี และให้ผลตอบแทนการใช้พลังงานสูงสุดเมื่อเทียบกับรองเท้าทั้งหมดที่ Runner’s World Lab เคยทดสอบมา เป็นรองเท้าที่ทำให้วิ่งได้เร็วขึ้น นานขึ้น โดยแทบไม่รู้สึกเหนื่อยจนจบมาราธอน ส่วนด้านบนที่เป็น Vaporweave ไม่ดูดซับน้ำจึงไม่มีปัญหาเรื่องของเหงื่อ พื้นรองเท้าด้านนอกให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม
8. Asics DynaFlyte 4
ราคา: $ 120 (3,897 บาท)
น้ำหนัก: 235 กรัม (ชาย), 196 กรัม (หญิง)
Drop: 9 มม. (ชาย), 10 ม. (หญิง)
เป็นรุ่นที่มีการปรุงปรุงเล็กน้อย ด้านบนของรองเท้าเป็นผ้าตาข่ายที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้พอดีกับเท้า และเหมาะกับคนเท้ากว้าง แต่ toebox ทำให้เกิดการเสียดสีบ้างเล็กน้อย ส่วนลิ้นรองเท้าที่แม้ว่านุ่ม แต่ก็อาจจะกว้างเกินไป พื้นรองเท้า midsole เป็นโฟม EVA ส่วนพื้นรองเท้าด้านนอกทำจากยาง จากการทดสอบพบว่ารองเท้ามีการตอบสนองและความเสถียรของพื้นรองเท้าที่ดี แม้ว่าจะมีพื้นรองเท้าที่ไม่ได้หนามากก็ตาม
9. Topo Athletic Zephyr
ราคา: $ 130 (4,222 บาท)
น้ำหนัก: 296 กรัม (ชาย), 215 กรัม (หญิง)
Drop: 7 มม. (ชาย), 5 มม. (หญิง)
เหมาะสำหรับนักวิ่งที่มองหารองเท้าสำหรับการวิ่งระยะไกลที่นุ่มนวลในระดับหนึ่ง มาพร้อมแผ่นคาร์บอนที่ซ่อนอยู่และมีแผ่นยางที่ฝังอยู่ภายใน จุดเด่นของรองเท้ารุ่นนี้คือคุณสมบัติการรองรับแรงกระแทกและสปริงตัวที่นุ่มนวล ซึ่งมาจาก ZipFoam ที่มั่นคงและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Topo แม้ว่าผู้ทดสอบจะยกย่องในเรื่องความเร็ว เบา และ toebox ที่กว้างพร้อมที่จะช่วยซัพพอร์ทการขยายของเท้าขณะวิ่งทางไกล แต่ก็มีข้อด้อยอยู่ด้วย นั่นคือ ฐานรองเท้าที่รู้สึกแข็งเกินไปสำหรับบางคน
10. Reebok Floatride Run Fast 2.0
ราคา: $ 140 (4,548 บาท)
น้ำหนัก: 215 กรัม (ชาย), 176 กรัม (หญิง)
Drop: 11 มม. (ชาย), 10 มม. (หญิง)
สำหรับรุ่น 2.0 นี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงพื้นรองเท้าทั้ง midsole และ outsole แต่อย่างใด ยังคงเป็นรองเท้าที่มั่นคง แต่น้ำหนักเบา ซึ่งเป็นเพราะพื้นรองเท้าทำมาจากโฟม Pebax เหมือนกับที่พบใน Nike Vaporfly Next% จึงเบากว่า EVA ทั่วไป แต่ให้การกันกระแทกและคืนพลังงานที่ยอดเยี่ยม
บทสรุปปิดท้าย
เรายังมีสุดยอดรองเท้าวิ่งที่ได้รับรางวัล Shoe Awards 2020 จากนิตยสาร Runner’s World เหลืออีก 20 คู่ ที่จะมาอัปเดตให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันต่อในบทความตอนที่ 2 อย่าลืมติดตามกันนะ
ที่มา : https://bit.ly/3ctHJom
ข้อมูลราคาอัปเดตล่าสุด ณ วันที่ 21 เมษายน 2020
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming