หลายคนอาจสงสัยว่า นักวิ่งหรือนักกีฬา จะสามารถบริจาคเลือดได้ไหม การบริจาคเลือดจะทำให้ประสิทธิภาพในการฝึกซ้อมและการแข่งขันลดลงหรือเปล่า และเราควรเลือกช่วงเวลาการบริจาคเลือดอย่างไรให้ปลอดภัยและไม่กระทบกับการฝึก
นักวิ่ง นักกีฬา บริจาคเลือดได้ไหม?
คำตอบคือ “บริจาคได้แน่นอน” ทั้งนี้จะต้องมีคุณสมบัติของผู้บริจาคโลหิตตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
การบริจาคเลือด ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นกีฬาอย่างไร?
หลังจากที่ร่างกายสูญเสียเลือด ปริมาณเลือดในร่างกายและจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงจะลดลง ส่งผลให้ความสามารถในการนำพาออกซิเจนในร่างกายลดลงตามไปด้วย
ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักวิ่งนักกีฬา และผู้ที่ออกกำลังกายแบบ “แอโรบิก” ที่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนไปเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญพลังงานระหว่างออกกำลังกาย ดังนั้นเมื่อกล้ามเนื้อมีการนำพาออกซิเจนในระดับต่ำหลังจากสูญเสียเลือดไป จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของกล้ามเนื้อลดลงไปด้วย
ผลที่ตามมาหลังจากบริจาคเลือดคือ ร่างกายจะรู้สึกอ่อนแรง อ่อนล้า เหนื่อยง่าย ทำให้วิ่งหรือเล่นกีฬาได้ช้าลง
นักวิ่ง นักกีฬา ควรเลือกช่วงเวลาบริจาคเลือดอย่างไร?
มีผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ร่างกายจะฟื้นฟูปริมาณเลือดภายใน 3 วัน หลังจากการบริจาค และสภาพร่างกายจะกลับมาได้อย่างเต็มที่ภายใน 3 สัปดาห์ แต่ระดับฮีโมโกลบินโดยรวม อาจใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์กว่าจะกลับมาเป็นปกติ
แม้ว่านักวิ่งนักกีฬาส่วนใหญ่ อาจไม่ทันสังเกตเห็นประสิทธิภาพร่างกายที่ลดลงในแต่ละวัน แต่สิ่งนี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการแข่งขันได้เลย
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงไม่ให้กระทบกับการฝึกซ้อมหรือการแข่งขันในวันสำคัญ ไม่ควรบริจาคเลือดในช่วงใกล้กำหนดวันแข่งขัน และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย (ที่ต้องใช้กำลังเยอะๆ) หลังจากบริจาคเลือดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
สำหรับผู้ที่มีกำหนดลงแข่งขัน ให้พยายามหลีกเลี่ยงการบริจาคเลือดในช่วง 1 เดือนก่อนการแข่งขัน , สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงฝึกซ้อม สามารถกลับมาฝึกต่อได้ในวันต่อมา แต่หากเป็นผู้ที่ออกกำลังกายทั่วไป ควรพักให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเองอย่างน้อย 3 วัน
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย
แหล่งที่มา : https://bit.ly/3x2u1pu
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming