10 ประเภทการวิ่งที่นักวิ่ง (มือใหม่) ต้องรู้!
นักวิ่งมือใหม่ที่ฝึกวิ่งมาได้สักพัก ก็จะเริ่มมองหางานวิ่ง
เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจตัวเอง
ปัญหามันอยู่ที่ว่า.. เมื่อเห็นประกาศงานวิ่งที่นู่นที่นี่
ก็เกิดอาการ งง ไม่รู้จะลงอันไหนดี
มีทั้ง Mini / Half / Full แต่ละประเภทมันคืออะไรเนี่ย?
แล้วฉันควรจะลงวิ่งแบบไหนถึงจะเวิร์ค?
บทความนี้ชวนมาไขข้อข้องใจ พามาทำความรู้จักการวิ่งประเภทต่างๆกันค่ะ
1. Fun Run / Micro Marathon
ฟันรัน หรือบางสนามเรียกว่า ไมโครมาราธอน คือการวิ่งระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร
ซึ่งเป็นระยะทางที่สั้นที่สุดในบรรดาประเภทการวิ่งมาราธอนทั้งหมด
เป็นช่วงระยะที่เหมาะสำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่เริ่มลงงานวิ่งเป็นครั้งแรกๆในชีวิต
เพื่อนๆนักวิ่งมือใหม่ที่เป็นแนววิ่งบ้าง เดินบ้าง สายชิล เราแนะนำให้ลองเริ่มที่ประเภทนี้ค่ะ
เพื่อลองสนาม ลองบรรยากาศ และทดสอบร่างกายของตัวเอง
เมื่อมีประสบการณ์สนามจริงแล้ว จากนั้นจึงค่อยๆเพิ่ม Step, Up Level ไปเรื่อยๆ
2. Mini Marathon
มินิมาราธอน คือการวิ่งระยะทาง 10.5 กิโลเมตร
เป็นระยะที่เลื่อนขั้นขึ้นมาจาก Fun Run หนึ่งเท่าตัว ใครที่เริ่มวิ่งอย่างต่อเนื่องด้วยระยะทาง 5k
แล้วไม่รู้สึกเหนื่อยหรือหนักจนเกินไป ก็พร้อมที่จะลงสนามนี้แล้วล่ะค่ะ
เราแนะนำว่า ควรฝึกให้ร่างกายวิ่งระยะ 5-10 กิโลเมตร อยู่เป็นประจำ
เพื่อให้ร่างกายได้คุ้นชิน เมื่อลงสนามจริงจะได้วิ่งอย่างสบายๆเหมือนที่ซ้อมอยู่ประจำ
3. Half Marathon
ฮาล์ฟมาราธอน คือการวิ่งระยะทาง 21 กิโลเมตร
อันนี้กระโดดขึ้นมาจากสองระยะแรกเยอะเลยค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกฝนตัวเองมาเป็นอย่างดี
ดังนั้นเพื่อนๆนักวิ่งที่ตั้งใจจะลงระยะนี้ แนะนำให้ฝึกซ้อมและเตรียมร่างกายของตัวเองให้ดีค่ะ
ระยะทางค่อนข้างเยอะ หากไม่ผ่านการฝึกซ้อมมา ร่างกายที่ไม่พร้อมอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
วิ่งจบ แต่เจ็บ มันฟังดูไม่น่าสนุกเลยใช่ไหมคะ
4. Marathon / Full Marathon
มาราธอน หรือ ฟูลมาราธอน คือการวิ่งระยะทาง 42.195 กิโลเมตร
นี่คือระยะในฝันของนักวิ่งทุกคนก็ว่าได้ นักวิ่งที่เสพติดการวิ่งและจริงจังกับการวิ่ง
เป้าหมายอย่างหนึ่งก็คือ การได้วิ่งมาราธอนสักครั้งในชีวิต
หากจะลงวิ่งระยะนี้ต้องฝึกซ้อมร่างกายอย่างจริงจังค่ะ และต้องเตรียมตัวให้ดี
ทั้งเรื่องอาหารการกิน การนอนหลับพักผ่อน ต้องอาศัยความอึดของร่างกายมากๆ
จิตใจก็ต้องเข้มแข็ง อดทน พร้อมเผชิญกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างทาง
ทั้งความเมื่อยล้า ความท้อ ความหิว ตะคริวกิน ฯลฯ
ดังนั้นการฝึกซ้อมและการเตรียมตัวที่ดี จะทำให้เราเอาชนะมาราธอนได้ค่ะ
5. Ultra Marathon
อัลตร้ามาราธอน คือการวิ่งระยะทางที่มากกว่า 42.195 กิโลเมตร
มากกว่าในที่นี้คือระยะทาง 60, 70, 80 ,90 ไปจนถึงหลักร้อย หรือเกิน 100 กิโลเมตร
ระยะทางยิ่งมาก ระยะเวลาที่ใช้ในการวิ่งก็ยิ่งมากตามไปด้วย บางระยะทางวิ่งเกิน 10 ชั่วโมง
นั่นหมายความว่า ผู้ที่จะลงวิ่งระยะนี้ต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิม
ผ่านการฝึกซ้อมการวิ่งระยะไกลจนร่างกายปรับตัวได้ในขั้นที่ดี
นอกจากการฝึกซ้อมแล้ว การเตรียมตัวก่อนวิ่งและการดูแลตัวเองหลังวิ่ง
จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การกิน การพักผ่อน ความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ
หากหักโหมมากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
6. City Run
ซิตี้รัน คือการวิ่งไปตามริมทาง ริมถนน ตามตรอก ซอก ซอย สัมผัสกับบรรยากาศชุมชน
วิ่งชมวิถีชีวิตของผู้คนไปเรื่อยๆ เหมาะกับเพื่อนๆนักวิ่งที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ
หนีความจำเจจากลู่วิ่ง (Treadmill), สนามกีฬา หรือสวนสาธารณะ
เป็นวิธีฝึกวิ่งทางไกลได้ดีมากเลยค่ะ ไม่น่าเบื่อ แถมได้ระยะทางเพียบ
ชวนเพื่อนๆออกไปวิ่งด้วยกัน จัดเป็นทริปก็น่าสนุกมากเลยนะคะ
7. Cross Country
ครอสคันทรี คือการวิ่งบนเส้นทางวิบากระยะทาง 4-12 กิโลเมตร
บุกดงป่าเขา ทุ่งหญ้า ลุยน้ำ ลุยโคลน
เหมาะกับเหล่านักวิ่งที่ชอบชมธรรมชาติ ชอบเที่ยวป่าเที่ยวเขา แนวลุยๆ
ในไทยก็มีงานวิ่งที่จัดแบบ Cross Country หลายที่อยู่นะคะ
เช่น เชียงราย แม่ฮ่องสอน สมุย เป็นต้น
8. Trail Running
เทรล คือการวิ่งบนเส้นทางที่เป็นเนิน ขึ้นเขา ลงเขา
คล้ายกับ Cross Country แต่เน้นไปที่มีเนินชันมากกว่า
สายวิ่งเทรลจึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เพื่อช่วยในการปีนป่ายอย่างไม้เท้าเดินป่า (Trekking Pole)
เป้น้ำ ถุงรัดน่อง หมวก และของกินเพิ่มพลังงานเนื่องจากไม่มีตั้งจุดบริการ
รวมถึงรองเท้าวิ่งก็ต้องเป็นรองเท้าเฉพาะสำหรับวิ่งเทรล
ใครที่ชอบเดินป่า ชอบผจญภัย แนะนำให้ฟิตกล้ามเนื้อฟิตร่างกายแล้วออกไปลุย!
9. Spartan
สปาร์ตัน คือการแข่งขันวิ่งวิบากที่ต้องฝ่าด่านต่างๆที่สนามแข่งจัดไว้
คล้ายกับเข้าค่ายลูกเสือของทหารประมาณนั้นค่ะ
มีทั้งวิ่ง หมอบ คลาน ดึง ลาก ปีนป่าย ตามด่านอุปกรณ์ต่างๆ
กำแพง ลวดหนาม โคลน ต้นไม้ เนินเขา ลุยน้ำ
ใครที่อยากวิ่งแบบมันๆ แนะนำลงสมัคร Spartan เลยค่ะ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.spartanrace.co.th
10. Triathlon
มาถึงประเภทสุดท้าย…
ไตรกีฬา คือการแข่งขันที่ผสมผสานกีฬาทั้ง 3 ประเภทเข้าด้วยกัน
ได้แก่ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่งมาราธอน
ไตรกีฬา เหมาะกับเพื่อนๆที่ชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกายทั้ง 3 ประเภท
ความหลากหลายของไตรกีฬา ทำให้การแข่งขันสนุกสนาน มีสีสัน
เพื่อนๆที่เป็นแฟนเพจหรือติดตามเว็บไซต์ วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี ของเรา
คงจะคุ้นเคยกับ Triathlon เป็นอย่างดี
เพราะเราแบ่งปันข้อมูลครอบคลุมไตรกีฬาทั้ง 3 ประเภท
สำหรับใครที่สนใจกีฬา Triathlon สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของเรานะคะ
มีข่าวสาร สาระความรู้ และข้อมูลงานแข่งขันต่างๆมาอัพเดทอยู่เสมอค่ะ
จะวิ่งประเภทไหน แบบไหน ระยะไหน เพื่อนๆเลือกได้ตามที่ใจต้องการเลยค่ะ
วิ่งแบบไหนก็ได้ แต่วิ่งให้สนุก เก็บเกี่ยวความสุขระหว่างทางให้มากๆ
อย่าลืม! ฝึกซ้อมให้เหมาะสมด้วยนะคะ จะได้จบแบบสวยงามและไม่บาดเจ็บ
สุดท้ายแล้ว.. ไม่ว่าจะวิ่งแบบไหน ก็คุ้มค่า เพราะคุณได้เอาชนะร่างกายและจิตใจของตัวเอง
ไม่พลาดทุกกิจกรรม วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา
กด #Seefirst และ #Following กันไว้ ที่
?facebook.com/wheretorunwhentoride
ค้นหางานแข่งวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ทั่วไทย
ง่าย สะดวก พร้อมบทความสาระดีๆ ที่
?www.vrunvride.com
อัพเดท Running, Cycling,
Triathlon, Gadget, Food ได้ที่
?instragram.com/vrunvride
มาซ้อม วิ่ง ?♂ปั่น ?♂ว่าย ?♂ให้สนุกกันที่
?strava.com/clubs/vrunvride
[AD]
?♂วิ่ง?กิน?เที่ยว เรื่องเดียวกัน กับบัตรเครดิต KTC
ลุ้นแพ๊คเกจ ทัวร์ วิ่ง-กิน-เที่ยว ที่ ฮ่องกง
ไปพร้อม พี่ป๊อก อิทธิพล สมุทรทอง,
นาฬิกา SUUNTO 9 และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 8 แสนบาท
รายละเอียดเพิ่มเติม ? bit.ly/วิ่ง-กิน-เที่ยว-KTC
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming