5 สัญญาณที่บอกว่าเรากำลังมีภาวะขาดโพแทสเซียม
โพแทสเซียมเป็นอิเล็กโทรไลต์ (สารละลายที่นำไฟฟ้าได้) ที่มีความสำคัญต่อเซลล์ในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การหดตัวของกล้ามเนื้อ และส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ แต่คนส่วนใหญ่ได้รับโพแทสเซียมไม่เพียงพอ
อ้างอิงข้อมูลจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติของอเมริการะบุไว้ว่า ผู้ใหญ่ควรได้รับโพแทสเซียม 4,700 มิลลิกรัม แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ชายส่วนใหญ่มักได้รับโพแทสเซียมแค่วันละ 3,000 มิลลิกรัม ส่วนผู้หญิงมักได้รับแค่ 2,300 มิลลิกรัมเท่านั้น
และจากข้อมูลมีการแนะนำอาหารที่เป็นแหล่งรวมโพแทสเซียมไว้ด้วย ดังนี้
- แอปริคอต 1 ถ้วย จะมีโพแทสเซียม 1,511 มิลลิกรัม
- พรุน 1 ถ้วย จะมีโพแทสเซียม 1,397 มิลลิกรัม
- กล้วยหอมขนาดกลาง 1 ลูก จะมีโพแทสเซียมประมาณ 422 มิลลิกรัม
ถ้าหากมีอาการขาดโพแทสเซียมเป็นเวลานาน อาจทำให้เซลล์ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และในระยะยาวจะมีอาการอื่นๆ ที่สามารถสังเกตได้ ต่อไปนี้คือ 5 สัญญาณที่บอกว่าเรากำลังมีภาวะขาดโพแทสเซียม
1. มีความดันโลหิตสูงขึ้น
โซเดียมมีความเชื่อมโยงกับความดันโลหิตสูง แต่โพแทสเซียมสามารถช่วยปรับผลจากการได้รับโซเดียมได้ ข้อเท็จจริงก็คือยิ่งมื้ออาหารของเรามีโพแทสเซียมมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะมากขึ้นเท่านั้น ถ้าเราได้รับโพแทสเซียมไม่เพียงพอก็จะไม่มีตัวช่วยในการขับโซเดียมทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นได้ นอกจากนี้โพแทสเซียมยังลงความตึงเครียดของผนังหลอดเลือด จึงสามารถทำให้ความดันโลหิตลดลงได้
2. หัวใจเต้นผิดปกติ
การขาดโพแทสเซียมอาจทำให้มีอาการใจสั่นได้ เพราะว่าในช่วงที่โพแทสเซียมเข้าและออกจากเซลล์หัวใจนั้น จะเกิดการตรวจสอบจังหวะการเต้นของหัวใจ ถ้าเราได้รับโพแทสเซียมไม่เพียงพอหัวใจจะเต้นผิดปกติ
3. เป็นตะคริว
เป็นเพราะว่าโพแทสเซี่ยมมีความเกี่ยวข้องการการหดตัวของกล้ามเนื้อ การขาดอิเล็กโทรไลต์ชนิดนี้จึงทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อที่นานเกินไป ทำให้เกิดอาการตะคริวขึ้นมาได้
4. อาการท้องผูก
ปัญหาระบบทางเดินอาหาร เช่น “ท้องผูก” จะเกิดขึ้นหากว่าเราได้รับโพแทสเซียมไม่เพียงพอ นั่นเป็นเพราะโพแทสเซียมมีหน้าที่ช่วยส่งสัญญาณจากสมองไปทั่วทั้งร่างกาย รวมไปถึงระบบทางเดินอาหารด้วย การขาดโพแทสเซียมจะทำให้สัญญาณอ่อน และทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานช้าลงได้
5. ความเมื่อยล้า
การวิจัยพบว่าการขาดโพแทสเซี่ยมจะไปยับยั้งการผลิตอินซูลิน ซึ่งจะทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เรารู้สึกเหนื่อย ไม่มีเรี่ยวแรงในการวิ่งหรือออกกำลังกายอื่นๆ นอกจากนี้เซลล์ของเรายังต้องการโพแทสเซียมเพื่อให้สามารถทำงานได้ตามปกติ การขาดโพแทสเซียมจะทำให้เกิดผลเสียหลายอย่างเลย
วิธีตรวจสอบว่าเราขาดโพแทสเซียมหรือไม่
มีวิธีตรวจสอบเพียงวิธีเดียวเท่านั้นคือไปให้หมอตรวจเลือด
ทำอย่างไรให้ได้รับโพแทสเซียมผ่านทางอาหารมากขึ้น
แม้ว่าการรับประทาน “กล้วยหอม” จะเป็นสิ่งแรกที่คนคิดถึงเพื่อให้ได้รับโพแทสเซียมเพียงพอ แต่ผลไม้แห้ง เช่น แอพริคอต , ลูกเกต , ลูกพรุน , ถั่วแดง , ถั่วเลนทิล , นม , น้ำส้ม ก็เป็นแหล่งรวมโพแทสเซียมที่ดีเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีอาหารเสริมเป็นทางเลือกอีกด้วย แต่ในอาหารเสริมนั้นมีโพแทสเซียมเพียง 80 มิลลิกรัมเท่านั้นซึ่งยังไม่พอ แต่ในขณะเดียวกันการได้รับโพแทสเซียมมากเกินไปอาจทำให้ไตวายหรือเป็นโรคไตวายเรื้อรังได้
และก็ไม่ควรไปกังวัลเรื่องการสูญเสียโพแทสเซียมผ่านทางเหงื่อตอนที่ออกกำลังกาย เพราะคนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าตัวเองสูญเสียโพแทสเซียมเกินความเป็นจริง เราจะสูญเสียโพแทสเซียมในจำนวนที่เห็นได้ชัดก็ต่อเมื่อออกกำลังกายในช่วงฤดูร้อนหรือมีเหงื่อออกเป็นลิตรเท่านั้น
แต่ถึงแม้ว่าเราจะมีการสูญเสียโพแทสเซียมในระดับปกติ แต่ถ้าหากว่าเรามีโพแทสเซียมในร่างกายไม่เพียงพอ เราก็จะเริ่มสูญเสียโพแทสเซียมไปเรื่อยๆจนเกิดปัญหาในระยะยาวได้ นี่คือเหตุผลที่บางคนดื่มเครื่องดื่มกีฬาแบบที่มีโพแทสเซียมอยู่ด้วยเป็นบางครั้งนั่นเอง
ที่มา : https://bit.ly/3ewGl5o
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming