เรื่องราวสุดยอดของ “ทอมมี่ ฮิวจ์ส” นักวิ่งมาราธอนชาวไอริชอายุ 59 ปี ผู้เป็นเจ้าของสถิติโลกในปัจจุบัน
ถือเป็นการประสบความสำเร็จทางการกีฬาอันยิ่งใหญ่ของชาวไอริชในงานแข่งร็อตเตอร์ดัม (Rotterdam Marathon) ที่ผ่านมา อาจจะเป็นชัยชนะที่ดีที่สุดในปี 2019 ด้วยซ้ำ เหตุการณ์เกิดขึ้นในประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อชายชาวไอริชอายุ 59 ปี ทอมมี่ ฮิวจ์ส (Tommy Hughes) สามารถทำสถิติโลกด้วยเวลา 2:30:15 โดยเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 68 กลายเป็นเจ้าของสถิติชาวไอริชที่มีอายุเกิน 55 ปี ที่วิ่งได้เร็วที่สุด
ฮิวจ์ส เคยร่วมแข่งขั่นวิ่งมาราธอนโอลิปิกในปี 1992 ที่บาร์เซโลนา และเคยชนะการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ในปี ค.ศ.1991 โดยสามารถทำเวลาได้ 2:14:46 แต่ความสำเร็จของเขาหลังอายุ 50 ปี ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วจริงๆว่าเขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ อันที่จริงก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีเขาเคยคิดว่าอาชีพนักวิ่งของเขาอาจจะจบลงแล้วด้วยซ้ำ เขาเคยพบกับความเหนื่อยล้าและซึมเศร้าจนหันไปพึ่งเครื่องดื่มมึนเมามาก่อน
แต่หลังจากที่หมอวินิจฉัยว่า ต่อมพาราไธรอยด์ของเขามีปัญหาและพยายามหาวิธีช่วยรักษาเขา ฮิวจ์ส ก็ได้สู้กับชีวิตและสามารถทำเวลาในการวิ่งมาราธอนได้ดีกว่าในตอนเดือนธันวาคมถึง 8 นาที และมีเป้าหมายที่จะทำสถิติโลกเพิ่มขึ้นอีกหลังจากที่เขาจะมีครบอายุ 60 ปี ในเดือนมกราคมปี 2020
ในบทความนี้เราจะสอบถามเขาในเรื่องของการฝึกซ้อม ว่าเขาฝึกซ้อมอย่างไร และทำอย่างไรจึงสามารถรักษาประสิทธิภาพในการวิ่งมาได้ในตลอดช่วงสี่สิบปีที่ผ่านมา และเขามีเป้าหมายต่อไปอย่างไรบ้าง
Q : ช่วยบอกได้มั๊ยครับว่าคุณสามารถชนะการแข่งขันในไอร์แลนด์และทำสถิติโลกได้อย่างไร
เขาตอบว่า ผมสามารถทำสถิติโลกของชาวไอริชที่อายุเกิน 55 ปี ได้ เพราะว่าผมนั้นเคยเป็นเจ้าของสถิติชาวไอริชอายุเกิน 50 ปีในการแข่ง Half marathon และ 10k มาแล้ว ที่ผมวิ่งช้าลงก็เพราะร่างกายอยู่ในสภาพที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ผมจึงฝึกซ้อมอย่างจริงจังเพื่อทำสถิติสำหรับชาวไอริช โดยผมทำเวลาได้ 2.41
และในงานแข่งวิ่งที่ดับลินเมื่อปีที่แล้ว นักวิ่งชื่อ Cathal O’Connell ก็สามารถทำสถิติใหม่เป็น 2.37 เมื่อเดือนธันวาคมผมไปร่วมแข่งวิ่งที่เมืองมาลากาในประเทศสเปนและทำสถิติได้ประมาณ 2.38 โดยวิ่งช้าลงเพียง 50 วินาที ผมจึงตัดสินใจจะซ้อมวิ่งมากขึ้นนิดนึงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพื่อไปแข่งที่ Rotterdam หรือ ลอนดอน
ผมฝึกหนักมากจริงๆในช่วงหกเดือนที่ผ่านมานี้และผมรู้ว่าผมทำได้ดี เพราะผมเคยทำลายสถิติของชาวไอริชที่มาอายุมากกว่า 50 ปี มาแล้วในการแข่งว่ง 10k และ Half marathon มันก็เป็นปัญหาอยู่นะที่เราจะต้องทำให้ดีในวันแข่งจริง แต่ผมก็พบว่าตัวเองสามารถทำสถิติโลกตอนอายุ 59 ปี ด้วยเวลา 2:30.15
Q : ปัญหาเรื่องสุขภาพทำให้คุณวิ่งช้าลงอย่างไรบ้าง
ผมไม่เคยเสียความรักการวิ่งเลย ผมทำลายสิถิติได้ในช่วงอายุหลัง 50 ปี แต่หลังจากนั้นก็มีบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายผม ผมต้องใช้ความพยายามดูแลความฟิตของร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะอาการป่วยของผม และจะต้องเข้ารับการผ่าตัดในเดือนสิงหาคม หมอพบว่ามีแคลเซียมในกระแสเลือดของผมมากเกินไป และมันเป็นพิษ ผมแค่ไปตรวจเลือดโดยมีสาเหตุอื่นแล้วก็พบว่าตัวเองมีอาการแบบนี้แหละ ผมได้พยายามแล้วพยายามอีกทั้งที่มีความเหนื่อยล้าและซึมเศร้า แล้วประตูก็เปิดให้ผมอีกครั้ง
ผมไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับผมบ้าง ผมแค่คิดว่าตัวเองแค่แก่ขึ้น ผมมีอาการเหนื่อยล้า ผมซึมเศร้า มันทำให้ผมเริ่มดื่ม ซึ่งการดื่มมันก็ทำร้ายผมเช่นกัน ผมจะเป็นอยู่อย่างนี้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ทุกอย่างพังครืนลงมาจนกระทั่งผมรู้เรื่องต่อมพาราไธรอยด์
Q : คุณซ้อมแบบไหนถึงได้ทำเวลาได้ 2.30 ที่เมืองร็อตเตอร์ดัม
ผมซ้อมเองคนเดียวเสมอแหละ แม้แต่ตอนเตรียมตัวลงแข่งที่บาร์เซโลน่าผมก็ฝึกของผมเอง ผมรู้ว่าต้องทำยังไง ผมรู้วิธีฟังเสียงของร่างกาย รูปแบบการซ้อมของผมก่อนลงแข่งที่ร็อตเตอร์ดัมคือ การวิ่ง 16 (25.74 กม.) ไมล์ในวันเสาร์ และ 22 ไมล์ (35.40 กม.) ในวันอาทิตย์ และ 5 ไมล์ (8.04 กม.) ในเช้าวันจันทร์ และอีก 10 ไมล์ (16.09 กม.) ในตอนเย็น
และจะมีการฝึก Speed training ประจำสัปดาห์ นอกนั้นผมยังฝึก Fartleks และ Speed work อีกด้วย ร่างกายของผมเริ่มฟื้นตัวเร็วมากขึ้น แม้แต่ในช่วงก่อนลงแข่งมาราธอน ผมก็สามารถลงแข่ง 5k ที่เมืองเบลฟัสต์ โดยทำเวลาได้ 16.51
Q : การวิ่งมาราธอนเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างตั้งแต่ช่วงหลังจากที่คุณมีอายุ 20 เป็นต้นไป
ผมทำเวลา 2.13.59 ที่ดับลินเมื่อปี 1991 ผมพบว่าการมีเป้าหมายนั้นมันช่วยได้มากในการที่จะมีแรงบันดาลใจอยู่ตลอดเวลา ผมกำลังจะมีอายุ 60 ปี ในเดือนมกราคมปีหน้า ต้องทำเวลาได้ 2:36.30. จึงจะทำลายสถิติคนอายุ 60 ปีได้ และผมจะเป็นเจ้าของสถิติคนต่อไป ผมเคยทำมันมาแล้ว 50 ปีและไม่คิดว่ามีใครเคยทำมาก่อน
Q : ช่วยบอกเรื่องการมีอายุยืนกับพวกเราหน่อย
มันคือการเอนจอยกับชีวิต เลือกทานอาหารให้ถูกต้อง พักผ่อนให้เพียงพอ เราต้องมีความสุข ต้องซ้อมอย่างต่อเนื่องโดยไม่สร้างความกดดันให้ร่างกายมากเกินไป ถ้าหากร่างกายยังไม่ฟื้นตัวก็อย่าวิ่งเลย ถ้าผมพยายามผลักดันตัวเองแต่ร่างกายบอกว่าไม่ ผมก็จะหยุด และเกือบทุกช่วงเวลาที่ซ้อมผมจะใช้เพซแค่ 3 ใน 4 เท่านั้น ผมจะไม่วิ่งด้วยความเร็วเต็มที่
แล้วร่างกายก็จะเริ่มชินไปเอง และครั้งต่อไปที่คุณเริ่มซ้อม เพซ 3 ใน 4 ของคุณ มันจะเริ่มเร็วกว่าเดิมในอีก 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า คุณจะกลายเป็นเหมือนเครื่องยนต์ เมื่อทำไปเรื่อยๆก็จะกลายเป็นความต่อเนื่อง
นี่แหละคือการวิ่งมาราธอน ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีความแตกต่างจากการแข่งวิ่งทั้งหมดทุกระยะทาง ทุกคนสามารถซ้อมวิ่ง half marathon ได้หมด แต่เมื่อยกระดับเป็นการซ้อมวิ่งมาราธอน ในช่วง 9-18 กม. สุดท้าย ไม่มีใครที่จะสามารถซ้อมวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดจริงๆ
สำหรับการวิ่งมาราธอนครั้งล่าสุด ผมซ้อมวิ่ง 26.2 ไมล์ (42.1 กม.) ไปสองรอบ ซึ่งมันเป็นการวิ่งมาราธอนสองรอบก่อนการลงแข่งจริง มันทำให้ขาผมเริ่มชินกับระยะทาง และในช่วง 9 กม. สุดท้ายผมก็รู้สึกได้ว่าตัวเองสามารถไล่ตามพวกคนหนุ่มสาวที่ซ้อมมากเกินไปได้ทัน เพราะว่าขาของผมมันสะสมระยะทางมาแล้วนั่นเอง ผมพบว่าในด้านของพลังใจนั้นมันเป็นอะไรที่ง่ายขึ้นเมื่อเราเริ่มมีอายุมากกว่าเดิม เมื่อผมซ้อมเสร็จผมจะรู้ได้เมื่อถึงช่วงระยะ 3 กม. สุดท้าย
Q : เป้าหมายต่อไปของคุณคืออะไร
ผมจะซ้อมต่อไป และผมก็จะลงแข่งต่อไปด้วย ลูกชายผมก็ทำได้ดีในการแข่งมาราธอน พวกเราจะซ้อมเพื่อให้เป็นเจ้าของสถิติโลกกันทั้งพ่อและลูก ผมเคยลงแข่งมาราธอนมาแล้วมากกว่า 100 ครั้ง ผมมักลงแข่ง 4-5 ครั้งต่อปี ผมจำเป็นต้องมีเป้าหมายให้พุ่งเข้าใส่ ผมไม่ได้รักการฝึกซ้อมนักหรอก แต่ผมรักการลงแข่งวิ่ง มันรู้สึกดีที่เรารู้สึกว่าร่างกายมีความฟิตก่อนที่จะได้ไปลงแข่งจริง
แหล่งที่มา : https://bit.ly/2Ih0C32
ไม่พลาดทุกกิจกรรม วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา
กด #Seefirst และ #Following กันไว้ ที่
?facebook.com/wheretorunwhentoride
ค้นหางานแข่งวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ทั่วไทย
ง่าย สะดวก พร้อมบทความสาระดีๆ ที่
?www.vrunvride.com
อัพเดท Running, Cycling,
Triathlon, Gadget, Food ได้ที่
?instragram.com/vrunvride
มาซ้อม วิ่ง ?♂ปั่น ?♂ว่าย ?♂ให้สนุกกันที่
?strava.com/clubs/vrunvride
[AD]
?บัตรเครดิต KTC ตัวจริงเรื่องกีฬา
แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 15% ที่ Sports World ทุกสาขา
? bit.ly/SPORTSWORLD
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming