9 เทรนด์ออกกำลังกายมาแรง ในปี 2021
ยุค New Normal นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตใหม่แล้ว วิธีการออกกำลังกายของผู้คนยุคใหม่ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากต้องใช้ชีวิตอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน ออกกำลังกายที่บ้าน ทำให้ในปี 2021 นี้เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น นี่คือแนวโน้มเทรนด์การออกกำลังกายยุคใหม่ที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ไว้สำหรับปีนี้
9 เทรนด์ออกกำลังกายมาแรง ในปี 2021
1. เปลี่ยนบ้านเป็นโรงยิม
ในขณะที่การแพร่ระบาดของ Covid-19 ยังคงดำเนินต่อไปในปีนี้ โดยที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ คนส่วนใหญ่จึงหันมาแบ่งพื้นที่ในบ้านบางส่วนเพื่อจัดสรรให้เป็นมุมออกกำลังกายไปเลย โดยข้อดีของการออกกำลังกายที่บ้านอย่างหนึ่งก็คือ เราไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ราคาแพงก็ได้ อาจใช้แค่ดัมเบลและสายรัดออกกำลังกายคู่หนึ่ง ก็สามารถออกกำลังกายให้มีรูปร่างดีได้เช่นเดียวกัน
ตัวอย่างอุปกรณ์ออกกำลังกายในบ้าน
- ชุดดัมเบล
- เสื่อโยคะ
- สายรัดออกกำลังกาย
2. โรงยิมอัจฉริยะ
การปิดโรงยิมและสถานที่ออกกำลังกายในช่วงโควิด ทำให้ยอดขายอุปกรณ์ออกกำลังกายระดับไฮเอนด์พุ่งสูงขึ้น แม้ว่าจะเป็นการลงทุนที่มีราคาสูง แต่สำหรับต่างประเทศก็ได้รับความนิยมมากในขณะนี้
ตัวอย่างอุปกรณ์ออกกำลังกายอัจฉริยะ

3. ออกกำลังกายสไตล์ Recovery
เนื่องจากกระแสความสนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาปรับสมดุลในการออกกำลังกายด้วยการทำกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูร่างกายกันมากขึ้น อย่างเช่น การนอนหลับ การทำสมาธิ โภชนาการ เป็นต้น ไม่ใช่การออกกำลังกายเพียงแค่เพิ่มความแข็งแรงเท่านั้น
4. การออกกำลังกายแบบ Mind-body
ในช่วงที่เกิดโรคระบาดผู้คนหันมาสนใจการออกกำลังกายแนวผ่อนคลายจิตใจกันมากขึ้น เพื่อลดความเครียด ดังนั้น โยคะ พิลาทิส และกิจกรรมผ่อนคลายกายใจอื่น ๆ จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยรูปแบบการออกกำลังกายแบบ Mind-body สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น ค้นหาวิดีโอฝึกโยคะฟรีทางออนไลน์ หรือจ้างครูสอนโยคะตัวต่อตัวมาสอนที่บ้าน

5. ใช้อุปกรณ์ Wearable devices
อุปกรณ์สวมใส่สำหรับติดตามการออกกำลังกายกำลังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2565 จะมีผู้คนกว่า 900 ล้านคน ที่สวมใส่อุปกรณ์เหล่านี้
ผู้คนจะพึ่งพาอุปกรณ์เหล่านี้ เพื่อดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพ พฤติกรรมการนอนหลับ และระดับพลังงานต่าง ๆ ควบคู่ไปกับคำแนะนำจากโปรแกรมในอุปกรณ์ ซึ่งนอกจากนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ก็ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ติดตามข้อมูลสุขภาพได้ เช่น สายรัดข้อมือ Whoop Strap , แหวน Oura Ring เป็นต้น
6. ออกกำลังกายผ่านแอปพลิเคชั่น
การออกกำลังกายโดยใช้แอปพลิเคชั่น เป็นการออกกำลังกายที่ใช้อุปกรณ์น้อยที่สุด แม้ว่าการจัดห้องออกกำลังกายที่บ้านจะเหมาะกับบางคน แต่หลายคนก็ไม่มีพื้นที่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นการออกกำลังกายผ่านแอปฯ ยังสามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท และในอนาคตคาดว่าจะมีผู้คนจำนวนมากหันไปใช้แอปพลิเคชั่นออกกำลังกายกันมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างแอปฯ ออกกำลังกาย ฟรี
- วิดีโอใน YouTube
- Asana Rebel
- Nike Training Club
- Nike Run Club
- Daily Yoga

7. Virtual training ออกกำลังกายเสมือนจริง
แม้ว่าจะถูกจำกัดสถานที่ออกกำลังกาย แต่นักกีฬาก็ยังมองหาวิธีใหม่ ๆ ในการฝึกซ้อมและแข่งขันอยู่ดี จึงทำให้รูปแบบการออกกำลังกายและการแข่งกีฬาแบบเสมือนจริงได้รับความนิยมมากขึ้น และมีแพลตฟอร์มออกกำลังกายเสมือนจริงเปิดให้ใช้บริการมากมาย โดยผู้ใช้สามารถออกกำลังกายหรือแข่งขันกันได้แบบเรียลไทม์จากทั่วทุกมุมโลก
ตัวอย่างการออกกำลังกายเสมือนจริง
8. Active video games
แม้ว่า Virtual traning จะได้รับความนิยมมาก แต่ Active video games หรือ การรวมเอาการออกกำลังกายเข้ากับเกม โดยใช้การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นตัวควบคุมหลัก ก็ได้รับความนิยมมากไม่แพ้กัน ซึ่งผู้เล่นสามารถเล่นคนเดียวที่บ้านหรือจะแข่งกับคนอื่น ๆ ทางออนไลน์ ก็ยิ่งเพิ่มความสนุกสนานและตื่นเต้นขึ้นไปอีก
ตัวอย่างเกมออกกำลังกายที่ได้รับความนิยม
9. Solo Fitness
เทรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2020 และคาดว่าจะยังคงมีกระแสดีต่อเนื่องในปีนี้คือ กีฬาที่เล่นได้คนเดียว เช่น กอล์ฟ ปั่นจักรยาน เซิร์ฟบอร์ด เป็นต้น เพราะเป็นกีฬาที่จะทำให้ผู้คนรักษาระยะห่างจากผู้อื่น และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการแพร่ระบาดของไวรัสได้ และในขณะเดียวกันก็ยังคงสามารถฝึกการเคลื่อนไหวและความแข็งแรงของร่างกายได้ด้วย
ที่มา : https://bit.ly/3tiQKdd
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming