อาหารเสริมวิตามิน สามารถทำให้เราสุขภาพดีและมีประสิทธิภาพในการออกกำลังกายมากขึ้นหรือไม่
นักวิ่งมักจะมีสุขภาพที่ดีกว่าคนทั่วไปเพราะมีการออกกำลังกายและเลือกทานอาหารสุขภาพ แต่ด้วยเพราะเหตุนี้ล่ะที่นักโภชนาการมักแนะนำให้นักวิ่งทานอาหาร Whole food และบอกว่าไม่ต้องทานอาหารเสริมวิตามิน
แม้ว่ามันจะเป็นคำแนะนำที่ใช้ได้จริงสำหรับบางคน แต่บางช่วงเวลาการรับประทานอาหารเสริมวิตามินและเกลือแร่ก็มีประโยชน์ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกซื้อมันก็เป็นเรื่องยากเพราะหลายบริษัทได้ผลิต “วิตามินปรุงเฉพาะบุคคล” ออกมามากขึ้น
เราจำเป็นต้องทานอาหารเสริมหรือไม่?
การทานอาหารก็น่าจะทำให้เราได้รับสารอาหารมากพอแล้ว หากทานอาหารที่มีความหลากหลายและเต็มไปด้วยผักผลไม้ที่มีสีสัน แต่มันก็จะมีบางช่วงเวลาที่เราได้รับสารอาหารไม่พอ
อาหารเสริมจึงช่วยเราได้เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องทานอาหารเสริมตลอดเวลา แต่เราต้องใช้มันในช่วงที่ฝึกวิ่งมาราธอนหรือช่วงที่ร่างกายมีความตึงเครียด
มันอาจเป็นความตึงเครียดจากการเพิ่มระยะทางการวิ่ง , การกลับมาซ้อมหลังได้รับบาดเจ็บ หรือการเสียเลือดจากการมีประจำเดือน , วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าเราขาดวิตามินหรือไม่ก็คือการไปตรวจเลือด
ถ้าหากเราจำเป็นต้องทานอาหารเสริมก็ควรทานในช่วงเวลาสั้นๆ แค่เอาไว้ช่วยเราในช่วงที่ได้รับการอาหารไม่พอ

วิตามินปรุงเฉพาะบุคคล (Personalized Supplements) คืออะไร
วิตามินปรุงเฉพาะบุคคลกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้เพราะการตลาดนั่นเอง แต่ถ้าหากบริษัทไม่ได้มาตรวจเลือดเราและออกแบบวิตามินให้เราโดยเฉพาะ มันก็ไม่เรียกว่าวิตามินปรุงเฉพาะบุคคลน่ะสิ และถ้าหากไม่ได้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้มันก็ไม่ใช่วิตามินเฉพาะบุคคลอีกนั่นแหละ
พวกบริษัทในต่างประเทศจะถามว่า ลูกค้ามีเพศอะไร , อายุเท่าไหร่ , มีสมรรถนะทางร่างกายแค่ไหน หรือไม่ก็ถามว่าหมอเคยบอกลูกค้าว่ามีอาการขาดวิตามินบ้างไหม ซึ่งบริษัทจะใช้ข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการผลิตวิตามิน ซึ่งบางบริษัทเช่น “Rigr Centrum” ก็ไม่ได้มีการตั้งคำถามอื่นๆ ซึ่งมีความสำคัญอย่างเช่น กำลังตั้งครรภ์หรือไม่ , ต้องให้นมบุตรด้วยหรือไม่
ส่วนบริษัท Nurish (บริษัทของ Nature Made) จะถามข้อมูลส่วนตัวและเปลี่ยนสูตรวิตามินให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนไป โดยในแต่ละขั้นตอนจะได้รับการดูและโดยนักวิทยาศาสตร์และนักโภชนาการ โดยโฆษกของบริษัทได้กล่าวว่าถ้าหากลูกค้าไม่ได้มาปรึกษากับนักโภชนาการ มันก็ยากที่จะผลิตวิตามินที่เหมาะสมกับลูกค้าคนนั้นออกมา
แต่ในขณะเดียวกันบริษัทก็บอกว่าวิตามินแบบเฉพาะบุคคลและวิตามินแบบทั่วไปของบริษัทนั้นไม่ได้มีอะไรต่างกัน จึงพูดได้ว่ามันมีประโยชน์เท่ากันนั่นเอง

จะเลือกซื้อวิตามินอย่างไรดี
หากเพื่อนๆตัดสินใจจะซื้อวิตามินละก็ ต้องบอกไว้ก่อนว่าบางยี่ห้อมันก็ดีกว่ายี่ห้ออื่นจริงๆ , หากวิตามินไม่ได้รับการรับรองจาก คณะกรรมการอาหารและยาล่ะก็ มันอาจจะไม่ใช่วิตามินที่ดีพอก็ได้
บางยี่ห้อเป็นวิตามินรวมแต่ไม่ได้มีการแจกแจงว่ามีวิตามินอะไรบ้างและมีในปริมารมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเราไม่สามารถวิเคราะห์ได้เลยว่ามันจะมีประโยชน์หรือเป็นอันตราย แถมบางบริษัทยังอ้างว่าวิตามินของตนเองนั้นดีต่อสุขภาพอีกด้วย เราจึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตรวจสอบจากบุคคคลที่สาม เช่น United States Pharmacopeia (USP) , NSF for Sport, Informed Choice และ Banned Substance Control Group เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นวิตามินที่ได้การรับรองว่าใช้ในการกีฬาได้ ก็หมายความว่าเราจะไม่โดนข้อหาใช้สารกระตุ้นใดๆเมื่อมีการตรวจร่างกาย
นอกจากนี้เรายังควรเลี่ยงอาหารเสริมที่อ้างว่าสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งหรือสามารถเร่งการลดน้ำหนักได้ เพราะอาหารเสริม “ไม่ใช่ยาวิเศษ” ถ้ามีบริษัทไหนอ้างแบบนี้ก็ให้เลี่ยงไปเลย
โดยปกติแล้วเราควรได้รับสารอาหารจากการทานอาหาร แต่คนส่วนใหญ่ก็มักจะทานผักผลไม้ไม่เพียงพอ เราจึงการทานอาหารเสริมในวันที่เราได้รับสารอาหารน้อยเกินไป
ที่มา : https://bit.ly/3dxZLpz
เปิดกรุ๊ปให้เพื่อนๆ ที่รักการวิ่ง ไปคุยกัน
🏃 ♂ bit.ly/VRUNGROUP
.
#วิ่งไหนกันปั่นไหนดี #Sports #Running
#Cycling #Triathlon #Swimming